ทีมแพทย์ SU:I
ทีมแพทย์ SU:I

รู้จักการ ทำตาสองชั้น เทคนิคต่างๆ ให้เหมาะกับใบหน้า โดยอาจารย์แพทย์

ตาสองชั้นที่สวยธรรมชาติไม่ใช้เฉพาะการมีชั้นตาที่ชัดเจนเท่านั้น แต่หมายถึงองค์รวมของดวงตาที่มีความสมมาตร และมีสัดส่วนที่สมบูรณ์แบบโดยมีระยะห่างที่เหมาะสม ดังนั้นแพทย์จึงจำเป็นต้องใช้ความชำนาญสูงมาก เพราะหากพลาดแม้แต่ 1 มิลลิเมตร ก็สามารถส่งผลต่อความสมดุลของชั้นตาได้ ดังนั้นการทำตาสองชั้นจึงมีหลายวิธีมากมาย

สำหรับใครที่มีปัญหา หนังตาตก กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง หรือใครที่มีตาชั้นเดียว ต้องการทำจะทำตาสองชั้น แต่ยังไม่รู้ว่าต้องใช้เทคนิคแบบไหน? หรือเทคนิคไหนแบบไหนดีกว่ากัน? มาดูรายละเอียดเกี่ยวกับเทคนิคต่างๆ ให้เหมาะกับใบหน้า โดยอาจารย์แพทย์กันเลย

ทำตาสองชั้น ปรับดวงตาให้โตขึ้น
ทำตา2ชั้น-แก้ชั้นตาไม่เท่ากัน
ทำตาสองชั้น-ร่วมกับเปิดหางตา
ทำตาสองชั้น-sui
เลือกหัวข้ออ่านได้เลย

การทำตาสองชั้น คืออะไร?

การทำตาสองชั้น คือ การสร้างรอยพับที่บริเวณเปลือกตาเพื่อเพิ่มความสวยงามให้กับดวงตา และช่วยแก้ไขปัญหาหนังตาตก ตาชั้นเดียว ตาสองชั้นหลบใน กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ตาสองข้างไม่เท่ากันให้กลับมากลมโต สวยสดใส มีความสมบูรณ์แบบ ตามลักษณะโหวงเฮ้งตาสองชั้นที่ดีโดยมีลักษณะตากลมโตและเรียวยาว เป็นวงรีคล้ายเมล็ดอัลมอนด์ (Almond Eyes) ซึ่งบ่งบอกได้ว่าเป็นคนรอบคอบ คิดแง่บวก จิตใจดี ทำให้เป็นที่รักใคร่ของคนรอบข้าง นอกจากนี้การทำตาสองชั้นยังช่วยให้แต่งหน้าง่ายขึ้นอีกด้วย

ตาแบบไหนที่ควรทำตาสองชั้น

การทำตาสองชั้นเป็นทางเลือกยอดนิยมสำหรับผู้ที่ต้องการปรับลุคให้ดวงตาดูโดดเด่น สดใส และมีมิติมากขึ้น 

  • ตาชั้นเดียว (Monolid) หรือตาหมวย: ผู้ที่ไม่มีรอยพับของชั้นตาหรือมีเพียงรอยพับบาง ๆ การทำตาสองชั้นจะช่วยให้ดวงตาดูโต คมชัด และมีเสน่ห์มากขึ้น
  • ชั้นตาเล็ก หรือชั้นตาหลบใน: ลักษณะที่ทำให้ดวงตาดูไม่สดใส ดูเศร้า หรือดูเหมือนคนง่วงนอน (ตาปรือ) การสร้างชั้นตาใหม่จะช่วยเปิดดวงตาให้ดูกว้างขึ้น
  • หนังตาหย่อนคล้อย, ไขมันหนา, หรือมีหนังตาส่วนเกินมาก: ปัญหาเหล่านี้ทำให้ชั้นตาเดิมดูไม่ชัดเจน หรือบดบังดวงตา ทำให้ใบหน้าดูมีอายุ การทำตาสองชั้นจะทำร่วมกับการกำจัดไขมันและหนังตาส่วนเกินออกไป เพื่อให้ดวงตาดูอ่อนเยาว์และสดใส
  • มีชั้นตาอยู่แล้วแต่อยากให้ชัดเจนขึ้น: เพื่อเพิ่มความโดดเด่นและมิติให้กับดวงตา
  • มีชั้นตาที่ไม่เท่ากัน (Asymmetrical Double Eyelids): เพื่อแก้ไขให้ดวงตาทั้งสองข้างมีชั้นตาที่สมดุลและสวยงาม
  • ปัญหากล้ามเนื้อตาอ่อนแรง (Ptosis): ผู้ที่ลืมตาได้ไม่สุด เปลือกตาตกลงมาบดบังตาดำ ทำให้ดวงตาดูไม่สดใสหรือดูง่วงอยู่ตลอดเวลา การทำตาสองชั้นในกรณีนี้มักจะรวมถึงการผ่าตัดแก้ไขกล้ามเนื้อตา เพื่อให้สามารถลืมตาได้เต็มที่

ใครบ้างที่ควรทำตาสองชั้น

โหงวเฮ้งตาสองชั้น

การศัลยกรรมตาสองชั้น เป็นการทำศัลยกรรมเปลือกตา เพื่อการรักษาความผิดปกติของชั้นตาหรือเพื่อเสริมความงามของชั้นตาให้มีความดูเป็นธรรมชาติ โดยผู้ที่ควรทำตาสองชั้นมีดังนี้

  • ผู้ที่ต้องการทำศัลยกรรมเปลือกตา เพื่อการรักษาความผิดปกติของชั้นตา หรือเพื่อเสริมความงามให้มีตาสองชั้นที่สวยและดูเป็นธรรมชาติ
  • ผู้ที่มีหนังตาหย่อยคล้อย หนังตาตก มีหนังตาและไขมันบริเวณเปลือกตามาก ทำให้ตาเศร้า
  • ผู้ที่ตาปรือ ตาง่วงนอน ตาไม่สดใส ลืมตาขึ้นได้ไม่สุดที่เกิดจากภาวะของกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง
  • ผู้ที่มีปัญหาตาสองข้างไม่เท่ากัน รวถึงผู้ที่มีชั้นตาเดิมหนาหรือเล็กเกินไปดูไม่สมดุลกับส่วนอื่นของใบน้า
  • คนที่มีชั้นตาอยู่แล้ว แต่อยากให้เห็นชั้นตาใหม่ที่ชัดขึ้น
  • ผู้ที่มีความเชื่อเรื่องว่าตาที่สวยงามตามหลักโหงวเฮ้งจะส่งผลทำให้มีพลังบวก เป็นคนกระตือรือร้น ดูเฉลียวฉลาด

ใครบ้างที่ไม่ควรทำตาสองชั้น

ประโยชน์ของการทำตาสองชั้น

แม้ว่าการทำตาสองชั้นจะเป็นที่นิยม แต่ก็มีบางลักษณะของดวงตาที่ควรปรึกษาศัลยแพทย์อย่างละเอียด หรืออาจต้องเลือกใช้เทคนิคที่ซับซ้อนกว่าการทำตาสองชั้นทั่วไป

  • ผู้ที่มีหนังตาหย่อนคล้อยในระดับรุนแรง: หากเลือกทำด้วยเทคนิคแผลเล็กหรือเย็บจุด เมื่ออาการบวมยุบลงแล้ว หนังตาส่วนเกินที่หย่อนคล้อยมากอาจกลับมาปิดทับชั้นตา ทำให้ชั้นตาไม่ชัดเจนหรือไม่สวยงาม ควรทำด้วยเทคนิคกรีดยาวร่วมกับการตัดหนังตาและไขมันส่วนเกินออก เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ถาวรและชัดเจนที่สุด
  • ผู้ที่มีเปลือกตาหนามาก หรือผู้สูงอายุที่มีหนังตาหย่อนคล้อยมาก: คล้ายกับกรณีข้างต้น จำเป็นต้องใช้เทคนิคกรีดยาว เพื่อให้ศัลยแพทย์สามารถจัดการกับปริมาณเนื้อเยื่อและไขมันที่หนาเกินไปได้อย่างเหมาะสม
  • ผู้ที่มีปัญหากล้ามเนื้อตาอ่อนแรง (Ptosis) ในระดับรุนแรง: การทำตาสองชั้นเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอที่จะแก้ไขปัญหาการลืมตาไม่สุด หรือตาดูปรือได้ จำเป็นต้องทำผ่าตัดแก้ไขกล้ามเนื้อตาร่วมด้วย
  • ผู้ที่มีลักษณะเบ้าตาลึก: การสร้างชั้นตาใหม่โดยที่ไม่ได้แก้ปัญหาเบ้าตาลึก อาจทำให้ดวงตาดูโหลหรือผิดธรรมชาติได้
  • ผู้ที่ศัลยแพทย์วินิจฉัยว่ามีโครงสร้างตาที่ไม่เหมาะสม: เช่น โครงสร้างกระดูกเบ้าตาหรือตำแหน่งคิ้วที่ไม่เอื้อต่อการทำตาสองชั้นบางเทคนิค ซึ่งศัลยแพทย์จะให้คำแนะนำในการแก้ไขปัญหาที่เหมาะสมที่สุดเป็นรายบุคคล

ประโยชน์ของการทำตาสองชั้น 

ประโยชน์ของการทำตาสองชั้น

การทำตาสองชั้นเป็นมากกว่าการเพิ่มรอยพับ แต่เป็นการปรับลุคโดยรวมของดวงตาและใบหน้าให้ดูดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ดังนี้

  • เสริมความคมชัดและมิติ: ช่วยให้ดวงตาดู คมชัด โตขึ้น และมีมิติอย่างเป็นธรรมชาติ ทำให้ใบหน้าดูสดใสและตื่นตัวอยู่เสมอ
  • ปรับรูปตาตามสไตล์ที่ต้องการ: สามารถเลือกดีไซน์ชั้นตาให้เข้ากับความชอบและบุคลิก เช่น
    • สไตล์เกาหลี: ชั้นตาที่ดูเป็นธรรมชาติ ไม่สูงเกินไป
    • สไตล์สายฝอ (ฝรั่ง): ชั้นตาที่สูงและคมชัด
    • สไตล์ไทย: ชั้นตาที่เข้ากับโครงสร้างใบหน้าโดยรวม
  • เพิ่มความมั่นใจ: เมื่อดวงตาดูดีขึ้น ย่อมส่งผลให้ความมั่นใจในตนเองเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
  • แก้ไขปัญหาหนังตาตก/หย่อนคล้อย: ช่วยยกกระชับเปลือกตาที่หย่อนลงมาบังดวงตา ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ดูเหมือนตาปรือ หรือดูอ่อนเพลียอยู่ตลอดเวลา
  • สร้างความสมดุล: ช่วยแก้ไขปัญหาชั้นตาที่ไม่เท่ากัน ให้ดวงตาทั้งสองข้างมีรูปร่างและขนาดที่ใกล้เคียงกัน

การทำตาสองชั้นช่วยแก้ปัญหาหนังตาตกได้หรือไม่? 

การทำตาสองชั้นถือเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาหนังตาตกในระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่หนังตาตกเนื่องจากการมีไขมันสะสมหรือมีผิวหนังเปลือกตาหนาจนทำให้ชั้นตาดูหลบใน ในเทคนิคการสร้างชั้นตาแบบกรีดยาว ศัลยแพทย์จะทำการตัดหนังตาและไขมันส่วนเกินร่วมด้วย ซึ่งช่วยให้ดวงตาดูเปิดกว้างขึ้น ชั้นตาชัดเจนขึ้น และยังสามารถช่วยลดปัญหาหางตาตก ได้อีกด้วย 

ผลลัพธ์ของการทำตาสองชั้นอยู่ได้ถาวรหรือไม่?

การทำตาสองชั้นโดยทั่วไปถือว่าให้ผลลัพธ์ที่ถาวร ในแง่ของการสร้างรอยพับของชั้นตาที่ชัดเจนขึ้นและทำให้ดวงตาดูเปิดกว้างขึ้น อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์ด้านความงามอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามกาลเวลาและปัจจัยอื่น ๆ เช่น ความหย่อนคล้อยของผิวหนังตามอายุ หรือการเปลี่ยนแปลงของหนังตาในระยะยาว

ทำไมถึงควรทำตาสองชั้น กับ Dr.Ahn Tae Joo

Dr. Ahn Tae Joo เป็นศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางจาก SU: I Plastic Surgery ที่ได้รับการยอมรับในเรื่องของทักษะความสามารถ และเทคนิคพิเศษ โดยมีประสบการณ์ตรงในการดูแลคนไข้มาอย่างยาวนานกว่า 20 ปี นอกจากนี้ Dr. Ahn Tae Joo ยังมีได้เป็นผู้เข้าร่วมในฐานะผู้เขียนหนังสือประกอบการสอนผ่าตัดศัลยกรรม เพื่อส่งต่อองค์ความรู้ด้านศัลยกรรมให้แก่ศัลยแพทย์รุ่นใหม่ของประเทศเกาหลีใต้และศัลยแพทย์ทั่วโลก จำนวนถึง 4 เล่ม คือ

ผลงานทางวิชาการเกี่ยวกับตาสองชั้น ของหมออัน
  • Plastic Surgery Third Edition
  • Aesthetic Plastic Surgery
  • Aesthetic Plastic Surgery in Asians
  • The Art of blepharoplasty

นอกจากนี้ Dr. Ahn Tae Joo ยังได้รับเกียรติให้เข้าร่วมบรรยายทั้งในและต่างประเทศ นอกจากนี้ยังมีบทบาทที่สำคัญเกี่ยวกับด้านศัลกรรมต่างๆ อาทิเช่น

  • งานวิจัยสถิติโดยการวัดการเปลี่ยนแปลงของคิ้วหลังการผ่าตัดตา
  • ได้รับเชิญให้บรรยายในฐานะวิทยากรสำหรับ Taiwan Society of Aesthetic Plastic Surgery
  • ได้รับแต่ตั้งให้เป็นสมาชิกคณะกรรมการของ American Society of Plastic and Reconstructive Surgeons
  • เผยแพร่งานวิจัยเกี่ยวกับการเผยแพร่การปรับกล้ามเนื้อตาแบบไม่กรีด
  • ได้รับแต่งตั้งเป็นรองศาสตราจารย์แผนกศัลยกรรมตกแต่งแห่ง The Catholic University
  • เข้ารับโล่เกรียติคุณ ณ Korean Society of Plastic and Reconstructive Surgeons
  • ได้รับเชิญในฐานะผู้บรรยายในงานวิชาการศัลยกรรมตกแต่งตาที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีนปี 2017
  • ได้รับเชิญในฐานะผู้บรรยายในงานวิชาการศัลยกรรมตกแต่งในประเทศปี 2018
    นี่เป็นเพียงไม่กี่ตัวอย่างที่แสดงถึงทักษะความเชี่ยวชาญของ Dr. Ahn Tae Joo

เพื่อเป็นการเป็นเครื่องรันตรีความสามารถ ในวงการศัลยกรรมโดยเฉพาะการศัลยกรรมตา การศัลยกรรมจมูก และการยกกระชับได้เป็นอย่างดี ด็อกเตอร์อันแทจู (Dr. Ahn Tae Joo) ยังได้นำเสนอวิทยานิพนธ์มากกว่า 12 ครั้ง และบรรยายในงานสัมมนาและสาธิตหัตการมากกว่า 60 ครั้ง ใน 3 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไต้หวัน จีน ไทย และผลงานบทความทางวิชาการของ Dr. Ahn Tae Joo ได้รับความสนใจอย่างแพร่หลายระดับโลก ได้แก่

  • Management of Lacrimal Fistula during Epicanthoplasty: A Case Report
  • Botulinum Toxin Type A for Treatment of Masseter Hypertrophy: Volumetric Analysis of Masseter Muscle Reduction over Time
  • Combined,Minimally Invasive,Thread-based Facelift

ด้วยเหตุนี้ Dr. Ahn Tae Joo จึงได้รับรางวัลศัลยแพทย์ดีเด่นจากสมาคมศัลยกรรมพลาสติกของเกาหลีใต้ และเป็นบุคคลตัวอย่างที่ได้รับการยอมรับของวงการศัลยกรรมทั่วโลก

เทคนิคการทำตาสองชั้นในปัจุบัน

เทคนิคการทำตาสองชั้น

ในปัจจุบันเทคนิคการทำตาสองชั้นมีมากมายหลายเทคนิคเพื่อให้สามารถแก้ไขปรับรูปตาของคนไข้ได้อย่างตรงจุด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงามดูเป็นธรรมชาติและสร้างจุดเด่นให้กับรูปหน้าของคนไข้ในแต่ละเคสมากที่สุด

การทำตาสองชั้น แบบเย็บ 3 จุด (Incision eyelid)

เทคนิคทำตาสองชั้นโดยวิธีการเย็บจุด

ตาสองชั้นโดยการเย็บจุด เป็นการเย็บจุดที่เปลือกตา 3-5 จุด โดยการกรีดสั้นเพื่อสร้างรอยพับชั้นตาอย่างเป็นธรรมชาติ จากนั้นเย็บจากด้านในของหนังตาบน จึงไม่มีแผลให้เห็นภายนอกของหนังตา ซึ่งวิธีนี้ศัลยแพทย์จะนิยมทำร่วมกับการปรับกล้ามเนื้อตาเพื่อให้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น

ทำตาสองชั้นโดยวิธีการเย็บจุด เหมาะกับใครบ้าง?

  • เหมาะกับผู้ที่ไม่ปัญหาชั้นตาหนา หรือผู้ที่ไม่มีไขมันที่ชั้นตา
  • เหมาะกับผู้ที่มีตาชั้นเดียว และต้องการแก้ไขให้มีตาสองชั้นที่เป็นธรรมชาตอ

ข้อดีของเทคนิคตาสองชั้นแบบเย็บจุด

  • ช่วยให้ชั้นตาดูเป็นธรรมชาติ เวลาหลับตาจะเนียนไม่มีรอยแผลเป็น
  • หลังทำไม่ต้องพักฟื้น มีอาการบวมช้ำน้อย
  • ดูแลแผลง่ายไม่ต้องเสี่ยงต่อการติดเชื้อ และไม่ต้องเสี่ยงกับแผลคีย์รอย

ข้อเสียของเทคนิคตาสองชั้นแบบเย็บจุด

  • เทคนิคนี้ไม่เหมาะสำหรับการงแก้ไขปัญหาหนังตาตก
  • ไม่เหมาะกับผู้ที่มีไขมันบริเวณเปลือกตา หรือผู้ที่มีชั้นตาหนา
  • หากมีการขยี้ตาที่รุนแรงอาจทำให้ไหมหลุดได้

ทำตาสองชั้น แบบกรีดสั้น กรีดยาว

การทำตาสองชั้นแบบกรีดสั้นกรีดยาว เป็นเทคนิคการทำตาที่อาศัยการผ่าตัดกรีดหนังตาด้านบน เพื่อให้สามารถตัดตกแต่งหนังตาและไขมันส่วนเกินบริเวณเปลือกตาออก แล้วสร้างชั้นตาใหม่ที่ชัดเจนไปพร้อม ๆ กัน โดยเทคนิคกรีดสั้นหมอจะทำการกรีดช่วงกลางของหนังตา เปิดแผลเล็กมากเพื่อดึงเอาไขมันที่อยู่ในหนังตาออกและตกแต่งชั้นตาใหม่ ส่วนเทคนิคกรีดยาว หมอจะกรีดตั้งแต่หัวตายาวไปจนถึงหางตา ดังนั้นการทำตาสองชั้นด้วยเทคนิคกรีดยาว จึงสามารถดีไซน์รูปตาได้ดี รวมถึงสามารถดึงไขมันและแก้ไขปัญหาหนังตาหย่อนคล้อยได้มากกว่าการทำตาสองชั้นแบบกรีดสั้น

กรีดยาวเหมาะกับใคร?

เหมาะกับการทำตาสองชั้นผู้สูงอายุ ที่มีปัญหาหนังตาหย่อนคล้อย หนังตาตก และคนที่มีปัญหามีไขมันชั้นตาเยอะ

กรีดสั้นเหมาะกับใคร?

เหมาะกับการทำตาสองชั้นสำหรับคนที่มีปัญหาหนังตายังไม่ตกมาก มีไขมันส่วนเกินที่เปลือกตาน้อย ผู้ที่มีปิวเปลือกตาบาง และผู้ที่มีตาชั้นเดียวหลบใน

ข้อดีของเทคนิคการกรีดสั้นกรีดยาว

  • สามารถแก้ปัญหาหนักตาตกได้ดี และสามารถนำหนังตาที่หย่อนคล้อยออกได้มาก
  • เป็นเทคนิคที่ทำได้ง่ายไม่ซับซ้อน และสามารถปรับแต่งทรงตาได้ดี
  • เป็นเทคนิคที่เหมาะกับผู้ที่มีไขมันบริเวณเปลือกตา หรือผู้ที่มีชั้นตาหนา

ข้อเสียของเทคนิคการกรีดสั้นกรีดยาว

  • อาจมีอาการบวมช้ำที่ชัดเจน ทำให้ต้องมีระยะเวลาในการพักฟื้นอย่างน้อย 7 วัน
  • หากเกิดความผิดพลาดจะสามารถแก้ไขได้ยากกว่าการทำตาสองชั้นแบบไม่กรีด
  • อาจเสี่งต่อการเกิดแผลคีย์รอย

ศัลยกรรมที่นิยมทำร่วมกับทำตาสองชั้น ที่ช่วยให้ชั้นตาชัดและสวยขึ้น

ทำตาสองชั้นร่วมกับปรับกล้ามเนื้อตาแบบไม่กรีด (non-incision ptosis)

การปรับกล้ามเนื้อตา-ในผู้ที่ไม่มีตาสองชั้น

เทคนิคการปรับกล้ามเนื้อตาหรือเบิ่งกล้ามเนื้อตา เป็นการผ่าตัดเพื่อจัดการกับมัดกล้ามเนื้อบริเวณเปลือกตาที่อ่อนแรงหรือกล้ามเนื้อตาที่ยืดให้มีความกระชับขึ้น ทำให้กล้ามเนื้อมีแรงสามารถยกเปลือกตาขึ้นได้อย่างเต็มที่ เป็นการแก้ไขตาปรือ แก้ไขตาง่วงนอนให้สดใสมีชีวิตชีวาเป็นธรรมชาติโดยไม่ต้องกังวลต่อรอยแผลเป็น

การปรับกล้ามเนื้อตาร่วมกับทำตาสองชั้น เหมาะกับใคร

การปรับกล้ามเนื้อตา แบบไม่เกรีด เหมาะกับใครบ้าง?

  • เหมาะกับผู้ที่ต้องการแก้ไขปัญหาตาปรือ ตาง่วงนอนให้กลับมาสดใสอีกครั้ง
  • เหมาะกับผู้ที่ต้องการมีตาสองชั้นที่สวยงามดูเป็นธรรชาติโดยไม่ทิ้งรอยแผลเป็น
  • เหมาะกับผู้ตาทั้งสองข้างมีชั้นตาไม่เท่ากัน หรือผู้ที่ชั้นตาเดิมไม่ชัด

ข้อดีของเทคนิคปรับกล้ามเนื้อตาแบบไม่กรีด

  • เป็นการผ่าตัดกรีดมัดเย็บกล้ามเนื้อตาด้านในจึงไม่ต้องกังวลกับรอยแผลเป็น
  • ใช้เวลาในการผ่าตัดไม่นาน บวมช้ำน้อย ไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้นนานๆ
  • หลังการผ่าตัดสามารถลืมตาได้มากกว่าเดิม ทำให้เห็นตาที่กลมโตขึ้น

ข้อเสียของเทคนิคปรับกล้ามเนื้อตาแบบไม่กรีด

  • ไหมสามารถหลุดได้ง่ายหากมีการขยี้ตาที่รุนแรง
  • หลังผ่าตัดอาจหลับตาได้ไม่สนิทในผู้ที่มีปัญหากล้าเนื้อตาอ่อนแรงมากๆ

ทำตาสองชั้นแบบกรีด พร้อมปรับกล้ามเนื้อตา (Incision ptosis)

ทำตาสองชั้นแบบกรีด ร่วมกับปรับกล้ามเนื้อตา

ทำตาสองชั้นพร้อมปรับกล้ามเนื้อตาแบบกรีด เป็นเทคนิคที่จะช่วยกระชับกลามเนื้อที่ดึงเปลือกตาให้สามารถมีแรงดึงมากขึ้น ไปพร้อมๆกับการการกรีดเส้นชั้นตาสองชั้น และตัดตกแต่งเอาหนังส่วนเกินออกไปเพื่อให้คนไข้ได้ชั้นตาที่สวยงาม ตาดูโตเป็นธรรมชติมากยิ่งขึ้น

การทำตาสองชั้นแบบกรีด เหมาะกับใคร

ทำตาสองชั้นแบบกรีด พร้อมปรับกล้ามเนื้อตา เหมาะกับใครบ้าง?

  • เหมาะกับคนที่มีปัญหาหนังตาตกลงมาบังทำให้เห็นชั้นตาไม่ชัด
  • เหมาะกับคนที่มีชั้นตาเดิมสวยอยู่แล้ว แต่ต้องการแก้ไขปัญหากล้ามเนื้อตาอ่อนแรง
  • เหมาะกับคนที่ต้องการปรับแก้ไขเพื่อให้ได้ชั้นตาใหม่ที่สวยงาม
  • เหมาะสำหรับคนที่มีเวลาพักฟื้น 7-14 วัน

ข้อดีของการทำตาสองชั้นแบบกรีด

  • เป็นเทคนิคการทำตาสองชั้นที่ให้ผลลัพธ์ถาวรกว่าการเย็บจุด
  • สามารถปรับลดหรือเพิ่มขนาดชั้นตาให้มีความเป็นธรรมชาติได้ตามที่ต้องการ
  • แก้ไขปัญหาตาปรือ ตาง่วงนอนช่วยให้ตาดูกลมโต เห็นส้นชั้นตาที่ชัดเจนกว่าการเลือกเทคนิคใดเทคนิคหนึ่ง

ข้อเสียการทำตาสองชั้นแบบกรีด

  • หลังการผ่าตัดอาจพบกว่ามีอาการบวมช้ำมาก ทำให้ต้องใช้เวลาในการพักฟื้นค่อนข้างนาน
  • ต้องใช้ความละเอียดและความชำนาญของแพทย์เป็นพิเศษ เพราะเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาชั้นตาไม่เท่ากันได้ง่าย
  • อาจทำให้ทิ้งแผลรอยกรีดไว้บนเปลือกตา ที่สามารถเห็นได้จางๆในขณะหลับตา
  • ใช้เวลาในการเห็นผลลัพธ์ค่อนข้างนานอย่างน้อย 3-6 เดือน แผลเข้าที่มากที่สุดถึง 1 ปี

ทำตาสองชั้นร่วมกับเปิดหัวตา (Epicanthoplasty)

ศัลยกรรมเปิดหัวตา ร่วมกับตาสองชั้น

การศัลยกรรมเปิดหัวตา เป็นการผ่าตัดเปิดพื้นที่หัวตาเพื่อตกแต่งเนื้อที่คลุมปิดบริเวณหัวตา ทำให้เห็นความยาว ความกว้างและความโค้งของชั้นตาบริเวณหัวตาชัดขึ้น ตามสัดส่วนของดวงตาแบบ golden ratio จึงทำให้รูปร่างตาจึงดูยาวขึ้น แต่เทคนิคนี้ไม่ได้เหมาะสำหรับคนไข้ทุกคน ดังนั้นเทคนิคนี้จึงจำเป็นต้องได้รับการพิจรณาจากศัลยแพทย์อย่างละเอียดเสียก่อน

เจาะลึกเรื่องการเปิดหัวตา : เปิดหัวตา คืออะไร? ช่วยเรื่องอะไร? ข้อดี-ข้อเสีย เหมาะกับใครบ้าง

การทำตาสองชั้น ร่วมกับเปิดหัวตาเหมาะกับใคร

ศัลยกรรมเปิดหัวตา เหมาะกับใครบ้าง?

  • เหมาะสำหรับคนไข้ที่มองเห็นตาขาวบริเวณหัวตาแคบ ทำให้มีรูปไม่สมดุลต้องการเพิ่มความยาวให้กับดวงตา
  • เหมาะกับคนไขที่มีการทำศัลยกรรมตาสองชั้นและประกล้ามเนื้อตา เพื่อให้ได้ผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนยิ่งขึ้น

ข้อดีของเทคนิคศัลยกรรมเปิดหัวตา

  • ทำให้รูปตามีความเรียวยาวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ดวงตากลมโต สมดุลกันมากยิ่งขึ้น
  • ทำให้ตาดูโด่ดเด่นขึ้นและหวานขึ้น เห็นชั้นตาที่คมชัดตั้งแต่หัวตา

ข้อเสียของเทคนิคศัลยกรรมเปิดหัวตา

  • หากเปิดหัวตามากเกินความพอดีอาจทำให้ตาดูเรียวยาวมากเกินไปจนดูไม่เป็นธรรมชาติ
  • อาจมีความเสี่ยงที่จะทิ้งรอยแผลเป็นที่บริเวณหัวตาได้ หากแพทย์ให้เทคนิคการผ่าตัดที่ไม่ดีพอ

ทำตาสองชั้นร่วมกับเปิดหางตา (Lateral Canthoplasty)

ศัลยกรรมเปิดหางตาล่าง

ศัลยกรรมเปิดหางตา เป็นการผ่าตัดแก้ไข หางตาตก หางตาแคบ เพื่อปรับมุมหางตาให้เหมาะสมโดยการผ่าตัดบริเวณมุมตาด้านข้างให้ดูเรียวยาวขึ้น ซึ่งการเปิดหางตาจะประกอบด้วยหลายเทคนิค เช่น การยกหางตาให้ดูเชิดขึ้นเพื่อให้หางตาดูยาวขึ้น และปรับหางตาให้ต่ำลงเพื่อเพิ่มพื้นที่หางตาให้กว้างขึ้น ทั้งนี้การเลือกเทคนิคจะขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของแต่ละบุคคล เพื่อให้ได้ดวงตาที่เรียวสวยดูสมดุลกับองค์รวมส่วนอื่นๆของใบหน้า

เจาะลึกเรื่องการเปิดหางตา : เปิดหางตา คืออะไร? ข้อดี-ข้อเสีย เหมาะกับใคร ราคาเท่าไหร่?

การทำตาสองชั้น ร่วมกับเปิดหางตาล่าง เหมาะกับใคร

ศัลยกรรมเปิดหางตา เหมาะกับใครบ้าง?

  • เหมาะกับคนไข้ที่มีปัญหาหาตาแคบ ต้องการเพิ่มพื้นที่ให้หางตาดูยาวขึ้น
  • ผู้ที่มีหางตาชี้ที่ทำให้ใบหน้าดูมีเล่เหลี่ยม ซึ่งตามหลักโหงวเฮ้งถือว่าเป็นรูปเป็นร่างทรงตาที่ไม่ดี
  • เหมาะกับคนไข้ที่หางตาตก ทำให้ใบหน้าดูเศร้า

ข้อดีของเทคนิคศัลยกรรมเปิดหางตา

  • ช่วยปรับให้หางคาและหัวตามีพื้นที่ใกล้เคียงกัน เพื่อให้ได้รูปตาเรียวสวย
  • เมื่อทำร่วมกับการศัลยกรรมตาสองชั้นด้วยเทคนิคอื่นจะช่วยทำให้ดวงตาดูโตขึ้นอย่างชัดเจน

ข้อเสียของเทคนิคศัลยกรรมเปิดหางตา

  • หลังการผ่าตัดอาจมีรอยแดงช้ำมีมาก ต้องใช้ระยะเวลาในการพักฟื้น 1-2 เดือนจึงจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน
  • ต้องทำโดยศัลยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง หรือจักษุแพทย์ เพื่อให้ได้รับเปิดหางตาได้อย่างพอดี เพราะการเปิดหางตาที่มากเกินไปอาจทำให้ตาดูคล้อยห้อยได้

การเย็บเก็บหนังตาตกไว้ใต้ท้องคิ้ว (Sub eyebrow surgery)

การเย็บหนังตาตก ให้ตาสองชั้นสวยขึ้น

การเย็บเก็บหนังตาตกไว้ใต้ท้องคิ้ว เป็นวิธีการผ่าตัดโดยกรีดเปิดรอยแผลที่บริเวณใต้ท้องคิ้ว เพื่อเก็บหนังตาที่ตกหรือหนังตาที่หย่อนไว้ตามแนวชิดกับขอบล่างของคิ้วของคนไข้ ดังนั้นจึงต้องอาศัยการเย็บแผลที่ละเอียดและประณีตของศัลยแพทย์เฉพาะทาง เพื่อซ่อนแผลให้เรียบเนียนและไม่สามารถสังเกตได้ชัด

การเย็บเก็บหนังตา ปรับตาสองชั้น เหมาะกับใคร

การเย็บเก็บหนังตาตก เหมาะกับใครบ้าง?

  • เหมาะสำหรับผู้ มีปัญหาหนังตาตกมากๆ หรือมีไขมันหนังตาหนาจนบังชั้นตา ทำให้ใบหน้าดูมีอายุมาก
  • ผู้ที่มีปัญหาชั้นตาไม่เท่ากัน จากความหย่อนคล้อยของผิว
  • เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาไม่สามารถทำเอนโดไทน์ซึ่งต้องผ่าตัดและเย็บแผลบนศีรษะได้

ข้อดีของเทคนิคการเย็บเก็บใต้ท้องคิ้ว

  • ช่วยลดความหย่อนคล้อยของชั้นตาได้อย่างชัดเจน และให้ผลลัพธ์ที่ถาวร
  • ทำให้มีชั้นตาที่ชัดขึ้นได้ โดยไม่ต้องทำตาสองชั้น

ข้อเสียของเทคนิคการเย็บเก็บใต้ท้องคิ้ว

  • หลังการผ่าตัดอาจทำให้เกิดรอยแผลเป็นจางๆบริเวณใต้ท้องคิ้วได้
  • การเย็บเก็บใต้ท้องคิ้วเพียงอย่างเดียวไม่สามารถแก้ไขปัญหาตาปรือและตาง่วนนอน ที่มาจากภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงได้

การเกลี่ยไขมันใต้ตา (TCSR )

เทคนิคการเกลี่ยนไขมันใต้ตา

เทคนิคการเกลี่ยไขมันใต้ตา หรือ Transconjunctival Septal Reset เป็นการเอาไขมันใต้ตาที่เป็นก้อน หรือไขมันส่วนเกินใต้ตาออก จากนั้นจัดเรียงและเกลี่ยไขมันใต้ตาให้มีความเรียบเนียน นอกจากนี้การเกลี่ยไขมันใต้ตายังแก้ไขปัญหาใต้ตาดำ ใต้ตาดำในผู้ที่มีผิวบาง และผู้ที่มีระบบการไหลเวียนเลือดที่ไม่ดีให้กลับมามีใต้ตาที่สดใสขึ้นได้

เทคนิคการเกลี่ยไขมันใต้ตา เหมาะกับใครบ้าง?

  • เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวบาง และมีระบบไหลเวียนเลือดไม่ดีทำให้ขอบตาคล้ำ
  • เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาถุงใต้ตา หรือคนไข้ที่ใต้ตาลึก ใต้ตานูน

ข้อดีของเทคนิคการเกลี่ยไขมันใต้ตา

  • เมื่อใต้ตาดูเรียบเนียนขึ้นใบหน้าก็จะดูอ่อนเยาว์ขึ้น
  • ใช้เวลาพักฟื้นน้อย และผลลัพธ์อยู่ได้นาน

ข้อเสียของเทคนิคการเกลี่ยไขมันใต้ตา

  • ไม่สามารถแก้ไขปัญหาใต้ตาลึกได้ จึงจำเป็นต้องมีการฉีดใต้ตาร่วมด้วย เพื่อการเห็นผลลัพธ์ดีที่สุด
  • หลังการผ่าตัดใต้ตาอาจกลับมาคล้ำลงได้อีก

เจาะลึกเรื่องการเกลี่ยหรือจัดเรียงไขมันใต้ตา : จัดเรียงไขมันใต้ตา คืออะไร? เหมาะกับใคร ช่วยแก้ปัญหาใต้ตาไม่เรียบ ได้จริงไหม?

การยกกระชับใต้ตา (LB)

เทคนิคการยกกระชับตา

เทคนิคยกกระชับใต้ตา เป็นการผ่าตัดเพื่อแก้ไขเนื้อเยื่อรอบตาที่หย่อนลง ร่วมกับการปรับลดไขมันนูนออกมาให้กลับเข้าที่ เพื่อให้ใต้ตามีความกระชับขึ้น ซึ่งเป็นเทคนิคคล้ายๆกับการเกลี่ยไขมันใต้ตา แต่มีความซับซ้อนมากกว่าจึงต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างมาก

เทคนิคการยกกระชับตา เหมาะกับใครบ้าง?

  • เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาใต้ตาหย่อนคล้อยจากการสะสมของไขมันใต้ตา
  • เหมาะกับผู้ที่มีถุงใต้ตาจากอายุที่มากขึ้น

ข้อดีของเทคนิคยกกระชับใต้ตา

  • สามารถแก้ไขปัญหาความหย่อนคล้อยของใต้ตาได้อย่างตรงจุด
  • ช่วยเก็บผิวหนัง และกระชับผิวใต้ตา ให้ดูเต่งตึงขึ้น

ข้อเสียของเทคนิคยกกระชับใต้ตา

  • หากมีการนำเอาไขมันใต้ตาออกเยอะมากเกินไป อาจทำให้ใต้ตาเกิดการยุบตัวจนเป็นร่องลึกใต้ตาได้

ผ่าตัดยกกระชับหน้าผากด้วย Endotine

เอนโดไทน์ ร่วมกับศัลยกรรมตาสองชั้น

การผ่าตัดยกกระชับหน้าผากด้วย Endotine เป็นเทคนิคการผ่าตัดยกคิ้ว และยกกระชับหน้าผากผ่านการส่องกล้อง โดนการกรีดเปิดแผลที่บริเวณไรผมเป็นเส้นเล็กๆ แล้วสอดวัสดุใส่เอ็นโดรไทน์ Endotine ซึ่งเป็นวัสดุพิเศษเพื่อการยกกระชับผิวหนังที่มีความปลอดภัยสูง มีลักษณะเหมือนหมุดเล็กๆ ขนาดไม่ถึง 1 เซนติเมตร

การทำ Endotine ดึงตา2ชั้นเหมาะกับใคร

ผ่าตัดยกกระชับ Endotine เหมาะกับใครบ้าง?

  • เหมาะสำหรับผู้ที่มีริ้วรอยร่องลึกบริเวณหน้าผาก เป็นเส้นชัดเจน
  • เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาหนังตาตก หางตาตก แหละผู้ที่มีปัญหาชั้นตากับคิ้วที่แคบเกินไป

ข้อดีของผ่าตัดยกกระชับหน้าผากด้วย Endotine

  • เป็นการผ่าตัดที่มีแผลขนาดเล็กมากจึงแทบมองไม่เห็นรอแผลหลังการผ่าตัด
  • แผลหายเร็ว ใช้เวลาในการพักฟื้นสั้น และมีผลข้างเคียงหลังการผ่าตัดน้อยมาก
  • Endotine เอนโดไทน์ เป็นวัสดุที่มีความปลอดภัยสูง ได้รับมาตรฐานจาก FDA จากอเมริกา โดยสามารถสลายไปเองตามธรรมชาติ

ข้อเสียของผ่าตัดยกกระชับหน้าผากด้วย Endotine

  • หลังการผ่าตัดคนไข้อาจรู้สึกตึงๆหรือปวดบริเวณหน้าผาก 1-2 สัปดาห์
  • ในช่วงแรกคนไข้อาจจะรู้สึกนูนๆ เมื่อมีการสัมผัสในบริเวณที่ผ่าตัดใส่อุปกรณ์ ซึ่งวัสดุจะสลายไปเองใน 1 ปี

แนะนำอ่านเพิ่มเติม : การดึงหน้าผากด้วยเอนโดไทน์ (endotine) คืออะไร? ทำที่ไหนดี ราคาเท่าไหร่?

จะรู้ได้อย่างไรว่าควรทำเทคนิคไหน?

1. เทคนิคเย็บล็อก (แบบไม่กรีดหรือกรีดแผลเล็ก)

เทคนิคเย็บล็อก เหมาะสำหรับผู้ที่มีตาชั้นเดียวหรือชั้นตาหลบใน และมีหนังตาน้อยหรือไม่หย่อนคล้อยมาก เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่ต้องการให้ชั้นตาดูเป็นธรรมชาติ ชัดเจนแต่ไม่หนาจนเกินไป อีกทั้งยังช่วยให้มีระยะเวลาพักฟื้นที่สั้น เนื่องจากเป็นเทคนิคที่ใช้การเย็บล็อกชั้นตาโดยอาจจะไม่มีการกรีด หรือกรีดเป็นแผลเล็ก ๆ เท่านั้น

2. เทคนิคกรีดยาว (พร้อมตัดหนังตาและไขมัน)

สำหรับผู้ที่มีหนังตาหย่อนคล้อยมาก หรือมีไขมันบริเวณเปลือกตามากเกินไป ควรพิจารณาการทำตาสองชั้นด้วยเทคนิคกรีดยาว ซึ่งศัลยแพทย์จะทำการตัดหนังตาและไขมันส่วนเกินออกไปพร้อมกัน เพื่อแก้ไขปัญหาหนังตาตกและช่วยให้ดวงตาเปิดกว้างขึ้น เทคนิคนี้ให้ผลลัพธ์ที่เป็นชั้นตาที่ชัดเจนและถาวร และยังเป็นการแก้ไขปัญหาหนังตาตกไปได้ในตัว

3. การแก้ไขปัญหากล้ามเนื้อตาอ่อนแรงและหนังตาตกมาก

ในกรณีที่คนไข้มีปัญหาหนังตาตกอย่างรุนแรง ซึ่งอาจเกิดจากภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงร่วมด้วย จำเป็นต้องได้รับการประเมินเป็นกรณีพิเศษ ซึ่งอาจต้องมีการทำศัลยกรรมอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น การผ่าตัดแก้ไขกล้ามเนื้อตา (Levator Palpebrae Superioris muscle repair) หรือการทำศัลยกรรมยกหางตา (Lateral Canthoplasty/Brow lift) ตามคำแนะนำของศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

การเตรียมตัวก่อนศัลยกรรมทำตาสองชั้น

การเตรียมตัวก่อนทำตาสองชั้น

เพื่อให้การผ่าตัดเป็นไปอย่างราบรื่น และมีความปลอดภัยต่อตัวของคนไข้เอง ขอแนะนำให้ปฏิบัติตามขั้นตอนการเตรียมตัวที่แพทย์แนะนำอย่างเคร่งครัด ได้แก่

  1. ควรงดยาและวิตามินที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น ยากลุ่มแอสไพริน หรือไอบิวโพรเฟน วิตามิน C วิตามิน E และน้ำมันตับปลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนการผ่าตัด
  2. งดสูบบุหรี่และเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เนื่องจากมีผลต่อการบวมช้ำ อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนการผ่าตัด
  3. ควรแจ้งประวิติและโรคประจำตัวให้แพทย์ทราบอย่างละเอียด เพราะโรคประจำตัวบางอย่างอาจมีผลในการผ่าตัด เช่น ความดันสูง เบาหวาน โรคหัวใจ
  4. ในวันผ่าตัดควรงดการใส่คอนแทคเลนส์ งดการแต่งหน้า และควรเตรียมแว่นตากันแดดมาด้วย เพื่อป้องกันฝุ่นละออง
  5. ลดการใช้สายตา และเตรียมลาหยุดงาน อย่างน้อย 1-2 วัน เพื่อการพักฟื้นหลังผ่าตัด

เทคนิคการทำตา2ชั้น ของหมออัน ต่างจากที่อื่นอย่างไร

Dr. Ahn Tae Joo เป็นอาจารย์แพทย์และเป็นจักษุแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการทำศัลยกรรมตาสองชั้น มีความโด่ดเด่นในการดีไซน์รูปตาของคนไข้แบบ 1:1 เพื่อให้คนไข้มีดวงตาที่โดดเด่น และเป็นธรรมชาติ ด้วยเทคนิคเฉพาะที่ทำให้ต่างจากที่อื่น ได้แก่

  • Dr. Ahn Tae Joo เป็นศัลยแพทย์ที่ดำเนินการทุกขั้นตอนด้วยตัวเอง ตั้งแต่การให้คำปรึกษา ผ่าตัด และติดตามอาการ follow up หลังผ่าตัดอย่างใกล้ชิด ทำให้ไม่ต้องกังวลถึงการเปลี่ยนตัวศัลยแพทย์ในขณะการผ่าตัด
  • บริการอบออกซิเจน O2 Pressure Chamber Therapy และการฉายแสงลดบวมเพื่อฟื้นฟูเซลล์ผิวหลังการผ่าตัด ช่วยให้แผลหายได้ไวขึ้น
  • เตรียมพร้อมสำหรับเหตุฉุกเฉินระหว่างการผ่าตัด ด้วยเครื่องกระตุ้นหัวใจ ชุดช่วยเหลือฉุกเฉิน และมีไฟสำรอง PUS ไว้พร้อมสำหรับการผ่าตัดเสมอ
  • ดมยาสลบจากวิสัญญีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ พร้อมมีวิสัญญีแพทย์คอยเฝ้าสังเกตุอาการแบบเรียวไทม์ ผ่านหน้าจอไบโอเมตริกตลอดการผ่าตัด
  • มีทักษะความเชี่ยวชาญด้านการทำศัลยกรรมตาสองชั้นและปรับกล้ามเนื้อตาแบบไม่กรีด เป็นที่ยอมรับไปทั่วโลก โดยได้รับเชิญให้บรรยายในฐานะวิทยากรทั้งในและต่างประเทศ
  • รับฟังปัญหาของคนไข้และทำการวิเคราะห์อย่างละเอียดเพื่อการผ่าตัดที่แก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด ไม่ผ่าตัดเกินความจำเป็น
  • อุปกรณ์และยาที่ใช้เป็นของแท้ที่ได้รับการรับรองจากกระทรวงความปลอดภัยด้านอาหารและยาเท่านั้น
  • มีการฝึกอบรมณ์ด้านความปลอดภัยให้กับพนักงานสัปดาห์ละครั้ง เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับสถานการณ์ฉุกเฉิน

ขั้นตอนการทำตาสองชั้น ที่ Sui

ขั้นตอนการทำตาสองชั้น

SU: I Plastic Surgery เป็นคลินิกศัลยกรรมเฉพาะทางที่ประเทศเกาหลีใต้ ดังนั้นเพื่อความสะดวกของคนไข้ที่ต้องการเข้ารับการผ่าตัดศัลยกรรมกับ Dr. Ahn Tae Joo จึงควรปฏิบัติตามขึ้นตอนต่างๆดังนี้

  1. ปรึกษาศัลยแพทย์แบบตัวต่อตัวผ่าเอเจนซี่เพื่อลดขั้นตอนการบินไป-กลับ เกาหลีเพื่อพบคุณหมอด้วยตัวเอง
  2. แจ้งปัญหาและรายละเอียดรูปทรงตาที่อยากได้ เพื่อให้แพทย์ช่วยประเมิงถึงเทคนิคและการแก้ไขที่เหมาะสมกับคนไข้
  3. นัดวัน เวลา เพื่อเช็คคิวผ่าตัด ซึ่งขั้นตอนนี้หากคนไข้ใช้บริการผ่านเอเจนซี่ ทางเอเจนซี่จะช่วยเตรียมเอกสารการขอเข้าประเทศ การจองตั๋วเครื่องบิน จองที่พัก อำนวยความสะดวกในการแลกเงิน จองรถรับส่งสนามบิน และติดต่อล่ามไว้รอ
  4. เตรียมตัวและสัมภาระให้พร้อมสำหรับการเดินทาง
  5. เมื่อเดินทางไปถึงคนไข้จะได้พบคุณหมอเพื่อคุยรายละเอียดการผ่าตัดอีกครั้ง จากนั้นจะใช้ระยะเวลาการผ่าตัดประมาณ 1 -2 ชั่วโมง ขึ้นกับเทคนิคและความยากง่ายเคสของคนไข้

การดูแลตัวเองหลังศัลยกรรมทำตาสองชั้น

การดูแลตังเองหลังทำตาสองชั้น

การทำตาสองชั้นถึงแม้ว่าจะเป็นการทำศัลยกรรมจุดเล็กๆ แต่ก็มีความซับซ้อนที่ไม่น้อยไปกว่าการผ่าตัดใหญ่ ดังนั้นเพื่อให้แผลหายไว และไม่เกิดภาวะแทรกซ้อนตามมาควรมีการดูแลตัวเองดังนี้

  1. ประคบเย็นบ่อยๆหลังการผ่าตัดเพื่อให้เลือดหยุดซึ่ง และเพื่อช่วยลดอาการบวมช้ำ โดยเฉพาะในช่วง 48 ชั่วโมงแรก
  2. นอนหนุนหมอนให้ศีรษะสูงกว่าปกติใน 1-2 คืนแรกของการผ่าตัด เพื่อช่วยลดอาการบวม
  3. ระวังไม่ให้แผลโดนน้ำในช่วง 24 ชั่วโมงแรก เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
  4. ใช้พันสำลีสะอาดชุบน้ำเกลือ ในการทำความสะอาดเช็ดคราบเลือดที่บริเวณแผล
  5. รับประทานยากินยาฆ่าเชื้อ และทายาที่ได้รับจากทางคลินิก ตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
  6. ใส่แว่นกันแดดทุกครั้งที่ออกไปข้างนอก เพื่อป้องกันแสงแดด ลม ฝุ่น และสิ่งสกปรก
  7. เข้ารับการฉายแสงลดบวมตามวันที่คลินิกนัดหมาย
  8. งดการทานอาหารแสดง และอาหารที่มีโซเดียมสูงเพื่อป้องกันการอักเสบและอาการบวมที่อาจเพิ่มขึ้น
  9. ตัดไหมคามวันนัดของแพทย์หลังการผ่าตัด 5-7 วัน (ในกรณีที่การผ่าตัดไม่ได้ใบ้ไหมละลาย)

สำหรับใครที่อยากศึกษาข้อมูลวิธีปฏิบัติตัวเพิ่มเติม : ข้อปฏิบัติหลังทำตาสองชั้น สิ่งที่ควรระวังและการดูแล ให้ยุบบวมและตาเข้าที่เร็ว

ทำตาสองชั้นมีผลข้างเคียงอะไรบ้าง

  • อาการบวมและรอยช้ำ: เป็นอาการปกติที่พบได้บ่อยที่สุด ซึ่งเกิดจากการที่มีเลือดออกใต้ผิวหนัง อาการเหล่านี้จะค่อย ๆ ดีขึ้นและหายไปได้เองภายใน 2-3 สัปดาห์
  • ภาวะเลือดคั่ง (Hematoma): คือการมีก้อนเลือดสะสมอยู่ในบริเวณแผล หากก้อนมีขนาดใหญ่หรืออาการไม่ดีขึ้นตามปกติ ควรปรึกษาศัลยแพทย์เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม
  • อาการชาบริเวณเปลือกตา: เกิดขึ้นจากการที่เส้นประสาทได้รับการกระทบกระเทือนในระหว่างการผ่าตัด โดยทั่วไปอาการชาจะค่อยๆ หายไปได้เองภายใน 2-4 เดือน
  • ตาแห้งและระคายเคือง: อาจเกิดขึ้นได้ชั่วคราวในช่วงพักฟื้น เนื่องจากการปิดเปลือกตาอาจยังไม่สนิท แนะนำให้ใช้น้ำตาเทียมเพื่อบรรเทาอาการ
  • ความไม่สมมาตรของชั้นตา: อาจเกิดจากการบวมที่ยังไม่ยุบสนิท หรือการสมานของแผลที่ไม่สมบูรณ์ ซึ่งอาจทำให้ชั้นตาดูไม่เท่ากัน ชั้นตาหลุด หรือชั้นตาไม่ชัดเจน ในบางกรณีอาจต้องมีการผ่าตัดแก้ไข
  • รอยแผลเป็นที่ไม่เรียบเนียน/รอยนูน: การเกิดรอยแผลเป็นที่มีลักษณะเป็นนูนหรือแข็ง สามารถรักษาให้ดีขึ้นได้ด้วยการใช้ ยาฉีดสเตียรอยด์เฉพาะที่ หรือการรักษาด้วยเลเซอร์
  • อาการตาพร่ามัวชั่วคราว: มีสาเหตุมาจากอาการตาแห้งหรือการระคายเคืองที่เกิดขึ้นในช่วงพักฟื้น ซึ่งจะหายไปเมื่ออาการดังกล่าวดีขึ้น

ทำตาสองชั้น เทคนิคเกาหลี ราคาเท่าไหร่

ปัจจุบันการทำตาสองชั้นที่ไทยถือว่าได้รับความนิยมสูงมาก โดยมีราคาเริ่มต้นตั้งแต่หลัก 8,000-100,000 บาทขึ้นไป ขึ้นอยู่กับฝีมือและประสบการณ์ของแพทย์ ซึ่งในปัจจุบันศัลยแพทย์ในไทยที่มีความสามารถและใช้เทคนิคการทำตาสองชั้นแบบเดียวกับที่เกาหลีก็มีอยู่หลายท่าน แต่อาจมีคิวแน่นมากๆ ทำให้ต้องรอการผ่าตัดหลายเดือน ดังนั้นคนไทยที่ต้องการทำตาสองชั้นแบบรวดเร็วจึงนิยมไปทำตาสองชั้นกับศัลยแพทย์เฉพาะทางที่ประเทศเกาหลีนั่นเอง

ราคาทำตาสองชั้นในไทย

  • เทคนิคการปรับกล้ามเนื้อตา เริ่มต้น 21,500-95,000 บาท
  • เทคนิคเปิดหัวตา – เปิดหางตา เริ่มต้น 15,000 – 50,000 บาท/จุด
  • เทคนิคเอนโดไทน์ เริ่มต้น 39,000 – 120,000 บาท
  • เทคนิคยกกระชับใต้ตา เริ่มต้น 150,000 – 60,000 บาท
  • เทคนิค Sub eyebrow เริ่มต้น 30,000 – 100,000 บาท

ราคาในการทำตาสองชั้นที่เกาหลี

ราคาการทำศัลกรรมตาสองชั้นที่เกาหลี จะขึ้นอยู่กับเทคนิคและรายการศัลยกรรมที่ทำ ซึ่งอาจเป็นราคาที่สูงกว่าการทำตาสองชั้นแบบทั่วไปในไทย แต่มีราคาที่ใกล้เคียงกับการทำตา 2 ชั้นโดยอาจารย์ที่มีชื่อเสียงหลายๆท่าน

  • เทคนิคปรับกล้ามเนื้อตาแบบกรีด และ ไม่กรีด เริ่มต้น 120,000 บาท
  • เทคนิคเปิดหัวตา – เปิดหางตา – เปิดหางตาล่าง เริ่มต้น 60,000 บาท/จุด
  • เทคนิคเอนโดไทน์ เริ่มต้น 240,000 บาท
  • เทคนิคยกกระชับใต้ตา เริ่มต้น 130,000 บาท
  • เทคนิคการยกกระชับใต้ตา เริ่มต้น 80,000 บาท
  • เทคนิค Sub eyebrow เริ่มต้น 90,000 – 120,000 บาท

การทำตาสองชั้นอันตรายหรือไม่?

การทำศัลยกรรมตาสองชั้นโดยทั่วไปถือว่ามีความปลอดภัยสูง หากดำเนินการโดยศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ และทำในสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน 

อย่างไรก็ตาม เพื่อความปลอดภัยสูงสุด ผู้ที่มีโรคประจำตัวบางชนิดควรระมัดระวังเป็นพิเศษ ได้แก่ ผู้ที่ควบคุมอาการของโรคเบาหวานหรือความดันโลหิตสูงได้ยาก, ผู้ที่มีภาวะเลือดแข็งตัวผิดปกติ, หรือผู้ที่มีประวัติแพ้ยาชาเฉพาะที่ นอกจากนี้ ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับตาอยู่เดิม เช่น โรคตาแห้ง จำเป็นต้องได้รับการประเมินสุขภาพตาอย่างละเอียดจากศัลยแพทย์ก่อนการผ่าตัดทุกราย

เลือกทำตาสองชั้นที่ไหนดี

ทำตาสองชั้นทีไ่หนดี

เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงามและปลอดภัย การเลือกสถานที่ทำศัลยกรรมตาสองชั้นควรพิจารณาปัจจัยสำคัญเหล่านี้

1. มาตรฐานและความปลอดภัยของสถานพยาบาล

เลือกคลินิกหรือโรงพยาบาลที่มีใบอนุญาตประกอบกิจการอย่างถูกต้อง ได้รับการรับรองและมีมาตรฐานความปลอดภัยจากหน่วยงานทางการแพทย์

2. ความเชี่ยวชาญของศัลยแพทย์ผู้ทำ

ศัลยแพทย์ต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมตกแต่ง หรือจักษุแพทย์ที่มีประสบการณ์สูง เพราะมีความเชี่ยวชาญและชำนาญในเทคนิคการทำตาสองชั้นโดยเฉพาะ

3. ความน่าเชื่อถือและผลงาน

ตรวจสอบรีวิวและความคิดเห็นจากลูกค้าที่เคยใช้บริการจริง ดูรูปผลงานก่อน-หลังที่ชัดเจนและหลากหลาย เพื่อประเมินฝีมือ

4. การให้คำปรึกษาอย่างละเอียด

มีการให้คำปรึกษาและประเมินลักษณะดวงตาอย่างละเอียด ศัลยแพทย์แนะนำเทคนิคการทำที่เหมาะสมกับโครงสร้างตาของแต่ละบุคคล

5. การดูแลและติดตามผลหลังผ่าตัด

ให้การดูแลและมีการติดตามผลหลังผ่าตัดอย่างครบถ้วน มีการแนะนำวิธีการดูแลตัวเอง และพร้อมให้ความช่วยเหลือ หรือแก้ไขปัญหาในกรณีที่เกิดภาวะแทรกซ้อน

ทำไมต้องเลือกทำตาสองชั้นที่ SU:I

SU:I Plastic Surgery มีจุดเด่นที่ทำให้การทำตาสองชั้นแตกต่างและน่าเชื่อถือ ดังนี้

1. ศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญระดับโลก: Dr. Ahn Tae Joo

ผ่าตัดโดย Dr. Ahn Tae Joo ผู้มีประสบการณ์และทักษะสูงในการทำตาสองชั้น เชี่ยวชาญเป็นพิเศษด้านศัลยกรรมตาและการแก้ไขหนังตาตก เป็นที่ยอมรับในวงการทั้งในและต่างประเทศ

2. เทคนิคทันสมัย แก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด

มีเทคนิคการทำตาสองชั้นที่หลากหลายและทันสมัย ใช้เทคนิค เช่น การกรีดพร้อมปรับกล้ามเนื้อตา เพื่อแก้ไขปัญหาหนังตาตก และชั้นตาหลบในได้อย่างมีประสิทธิภาพ

3. ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและเป็นเอกลักษณ์

มุ่งเน้นการออกแบบ “ดวงตาใหม่” ที่เสริมความสวยงามและเสน่ห์เฉพาะตัว ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและเหมาะสมกับโครงหน้าของแต่ละบุคคลอย่างที่สุด

4. การดูแลหลังผ่าตัดแบบครบวงจร

มีระบบดูแลครบวงจร เช่น โปรแกรมอบออกซิเจนบริสุทธิ์ (O2 Chamber) และแสง LED ช่วยลดอาการบวม ช้ำ และช่วยฟื้นฟูเนื้อเยื่อให้หายเร็วขึ้น

5. การดูแลเฉพาะบุคคล (1:1 Service)

เน้นการดูแลคนไข้แบบ 1 ต่อ 1 (ตั้งแต่การให้คำปรึกษาจนถึงการติดตามผล) เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัยสูงสุดและน่าพึงพอใจในทุกขั้นตอน

รีวิวทำตา 2 ชั้น

คำถามที่พบบ่อย

ทำตาสองชั้นแล้วหน้าแก่จริงหรือไม่?

การทำตาสองชั้นสามารถทำให้ใบหน้าแก่ขึ้นได้จริง เนื่องจากศัลยแพทย์ขาดทักษะความเชี่ยวชาญ ทำให้เอาไขมันในชั้นตา หรือไขมันใต้ตาออกมากเกินไป ส่งผลทำให้เห็นเป็นร่องใต้คิ้ว ตาลึก ตาโบ๋ใบหน้าจึงดูแก่กว่าวัย (อ่านเพิ่มเติม)

เพิ่งทำตาสองชั้นมา กี่วันถึงต่อขนตาได้

การต่อขนตาข้อเสียที่จะส่งผลกระทบต่อแผลผ่าตัด ซึ่งอาจทำให้เสี่ยงต่อการอักเสบและติดเชื้อตามมา ดังนั้นหลังการทำตาสองชั้นจึงขอแนะนำให้งดต่อขนตาอย่างน้อย 3 เดือน

ทำตาสองชั้นอย่างเดียวหน้าจะเปลี่ยนเยอะไหม?

การทำตาสองชั้นอาจส่งผลทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์และดูหวานขึ้นได้ แต่การทำตาสองชั้นเดียวอย่างเดียวอาจไม่ได้ทำให้ใบหน้าเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมาก สำหรับผู้ที่ต้องการให้ใบหน้ามีการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนแนะนำให้ทำตาสองชั้นร่วมกับการทำศัลยกรรมอื่นเช่นการเสริมจมูก

ทําตา 2 ชั้นเจ็บไหม?

โดยปกติแล้วการทำตาสองชั้น ศัลยแพทย์จะทำการฉีดยาชาที่บริเวณหนังตาก่อนลงมือผ่าตัด เพื่อลดความรู้สึกในขณะทำ ซึ่งคนไข้อาจรู้สึกเจ็บได้จากการฉีดยาชาเข็มแรก แต่หลังจากที่ยาชาเข็มแรกออกฤทธ์ ก็จะไม่ทำให้รู้สึกเจ็บอีกเลยตลอดการผ่าตัด แต่หลังการผ่าตัดอาจมีปวดบ้างเล็กน้อย สามารถทานยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการได้

แผลทำตาสองชั้นกี่วันเข้าที่ กี่วันหายบวม?

หลังทำตาสองชั้นของแต่ละคนอาจมีอาการบวมช้ำที่ไม่เท่ากัน (ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ ความมือเบาของศัลยแพทย์ และเทคนิคที่ใช้) ซึ่งโดยส่วนมากจะบวมมากในสัปดาห์แรก โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 2-3 หลังจากนั้นอาการบวมก็จะค่อยๆลดลงเรื่อยๆ แผลมีการสมานหายได้เองใน 2 สัปดาห์ และสามารถหายบวมได้เต็มที่ภายใน 1-2 เดือน

ทำตาสองชั้นใช้เวลาพักฟื้นกี่วัน ?

หลังการทำตาสองชั้นมักจะมีอาการบวมชัดมากในช่วง 2-3 วันแรก และจะค่อยๆลดบวมลงเรื่อยๆ ดังนั้นหลังการทำตาสองชั้นแพทย์จึงแนะนำให้ใช้เวลาในการพักฟื้นอย่างน้อย 7-10 วัน เพื่อตัดไหมให้เรียบร้อยและมั่นใจว่าชั้นตาเข้าที่ดี

ต้องตัดไหมไหม? ตัดไหมเมื่อไหร่? 

ศัลยแพทย์จะนัดหมายให้เข้ามาตัดไหมประมาณ 7-9 วันหลังผ่าตัด

ชั้นตาที่ทำไปแล้วไม่เท่ากัน ต้องทำอย่างไร?

หากหลังจากผ่านระยะเวลาพักฟื้นนานแล้ว เช่น 6 เดือนขึ้นไป ชั้นตายังคงไม่เท่ากันอย่างชัดเจนหรือผิดรูป ควรปรึกษาศัลยแพทย์เพื่อประเมินหาสาเหตุที่แท้จริง ซึ่งศัลยแพทย์อาจแนะนำการแก้ไขด้วยการปรับเล็กน้อยหรือการทำศัลยกรรมเพิ่มเติมเพื่อปรับชั้นตาให้มีความสมมาตร การปฏิบัติตามคำแนะนำของศัลยแพทย์อย่างเคร่งครัดและการติดตามผลอย่างสม่ำเสมอจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยลดโอกาสเกิดปัญหานี้ได้

สรุป

สรุปเทคนิคทำตาสองชั้น แต่ละวิธี

การทำตาสองชั้น ถือเป็นศัลยกรรมที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญสูงในการออกแบบและดำเนินการ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงาม เป็นธรรมชาติ และเข้ากับโครงสร้างใบหน้าของแต่ละบุคคล การเลือกเทคนิคที่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นแบบเย็บจุด กรีดยาว หรือการปรับกล้ามเนื้อตาร่วมด้วยนั้น ขึ้นอยู่กับการวิเคราะห์สภาพเปลือกตาและปัญหาเฉพาะของผู้รับการผ่าตัด ซึ่งความสำเร็จจึงไม่ได้อยู่ที่เทคนิคเพียงอย่างเดียว แต่ขึ้นอยู่กับประสบการณ์และทักษะของศัลยแพทย์เป็นสำคัญ 

หากคุณกำลังมองหาผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการยอมรับระดับโลก SU:I Plastic Surgery โดย Dr. Ahn Tae Joo พร้อมมอบประสบการณ์การทำตาสองชั้นที่ปลอดภัย ด้วยเทคนิคที่ทันสมัย และการดูแลแบบ 1:1 ครอบคลุมตั้งแต่การปรึกษาจนถึงการติดตามผลหลังผ่าตัด และเพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางไปเกาหลี เรามีบริการครบวงจร ทั้งการนัดหมาย จองที่พัก บริการล่าม และรถรับส่ง เพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์การทำศัลยกรรมที่ดีที่สุดได้อย่างไร้กังวล


เอกสารอ้างอิง

1. Tae Joo Ahn. (2014). Mild Ptosis Correction with the Stitch Method During Incisional Double Fold Formation. แหล่งข้อมูล : https://www.researchgate.net/publication/260132336_Mild_Ptosis_Correction_with_the_Stitch_Method_During_Incisional_Double_Fold_Formation
2. Tae Joo Ahn. (2014). Comprehensive Review of Asian Cosmetic Upper Eyelid Oculoplastic Surgery: Asian Blepharoplasty and the Like. แหล่งข้อมูล : https://www.researchgate.net/publication/272432146_Comprehensive_Review_of_Asian_Cosmetic_Upper_Eyelid_Oculoplastic_Surgery_Asian_Blepharoplasty_and_the_Like
3. Tae Joo Ahn. (2016). Blepharoplasty: Understanding Blepharoptosis Correction. แหล่งข้อมูล : http://idnps.com/clinical/approaches-to-creating-a-beautiful-face/1-1-blepharoplasty-understanding-blepharoptosis-correction/
4. Arch Plast Surg. (2016). Mild Ptosis Correction with the Stitch Method During Incisional Double Fold Formation
. แหล่งข้อมูล : https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC3915160/

สาระน่ารู้เกี่ยวกับศัลยกรรมที่เกี่ยวข้อง