
การดึงหน้าผากด้วยเอนโดไทน์ (endotine) คืออะไร? ทำที่ไหนดี ราคาเท่าไหร่?

เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวลดลง จึงทำให้ผิวหน้าเกิดความหย่อนคล้อย ร่วงโรยเป็นริ้วรอยร่องลึกต่างๆ โดยเฉพาะผิวหนังบนใบหน้า ที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดปัญหาหน้าผากเป็นรอยย่น คิ้วไม่ยก หางตาตก ผิวหนังหย่อนลงมาทับชั้นตา ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเพลียไม่สดใส และดูมีอายุ ซึ่งปัจจุบันการดึงหน้าผาก ยกคิ้วด้วยศัลยกรรมเอนโดไทน์ (endotine) เป็นอีกหนึ่งการยกกระชับที่น่าสนใจ เพราะช่วยให้การผ่าตัดมีแผลที่เล็ก ใช้เวลาไม่นาน และได้ผลลัพธ์ในระยะยาว แต่สำหรับใครที่ยังไม่เคยศึกษาข้อมูลว่าการดึงหน้าผากด้วยเอนโดไทน์ (endotine) คืออะไร? ทำที่ไหนดี ราคาเท่าไหร่? มาฟังคำตอบจากบทความนี้กันเลย
เอนโดโทน์ (endotine) คืออะไร?

เอนโดโทน์ (endotine) คือ วัสดุทางการแพทย์ที่ออกแบบมาอย่างพิเศษ เพื่อการยกกระชับผิวหนัง ทำให้เนื้อเยื่อของผิวกระชับขึ้น ซึ่งวัสดุ endotine (เอ็นโดไทน์) จะมีลักษณะเป็นหมุด มีก้านคล้ายกับหนามยื่นออกมาทั่วบริเวณหมุด ขนาดเล็กๆ ไม่ถึง 1 เซนติเมตร ใช้สำหรับยึดและดันผิวที่หย่อนคล้อยหรือยุบตัวลงจนเห็นเป็นร่องให้กลับมาตึงอีกครั้ง ด้วยการผ่าตัดผ่านการส่องกล้อง ที่ให้ความแม่นยำสูง ดังนั้น endotine (เอ็นโดไทน์) จึงเป็นวัสดุที่มีความปลอดภัยสูง สามารถสลายไปเองตามธรรมชาติ ผ่านการรับรองมาตรฐานจาก FDA จากอเมริกา
หลักการทำงานของการดึงหน้าผากด้วยเอนโดไทน์

- ศัลยแพทย์จะใช้วัสดุทางการแพทย์ชนิดพิเศษที่เรียกว่า “เอนโดไทน์” ซึ่งมีลักษณะเป็นหมุดเล็ก ๆ ที่มีก้านคล้ายหนามขนาดจิ๋วติดอยู่
- หมุดเหล่านี้จะทำหน้าที่เหมือนตะขอเกี่ยวและยึดผิวหนังที่หย่อนคล้อยให้ตึงกระชับขึ้นอย่างสม่ำเสมอ ต่างจากการเย็บดึงแบบทั่วไปที่ดึงจากจุดเดียว ทำให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติกว่า
- หมุดเอนโดไทน์จะช่วยยึดเนื้อเยื่อในชั้นลึก (ชั้น SMAS) ซึ่งเป็นชั้นที่สำคัญใน
เปรียบเทียบ เอนโดไทน์ vs. การยึดตรึงแบบอื่น

| คุณสมบัติ | การดึงด้วย เอนโดไทน์ (Endotine) | การยึดตรึงแบบอื่น (เช่น การเย็บไหมธรรมดา/ผ่าตัดแบบเดิม) |
| วิธีการดึง | กระจายแรงดึงสม่ำเสมอ ผ่านหมุดเล็ก ๆ หลายจุด | ใช้แรงดึงจากจุดเดียว หรือจุดยึดตรึงน้อยกว่า |
| ผลลัพธ์ที่ได้ | ผิวที่ถูกยกกระชับจะดูเรียบเนียน เป็นธรรมชาติ และไม่มีรอยตึงแข็ง | อาจทำให้เนื้อเยื่อถูกดึงไม่สม่ำเสมอ หรือเกิดรอยตึงแข็งได้ง่ายกว่า |
| ขนาดแผล | แผลเล็กมาก ทำผ่านการผ่าตัดส่องกล้อง (Endoscopic) | อาจต้องใช้ แผลผ่าตัดที่กว้างกว่า หรือแผลใหญ่ |
| การพักฟื้น | ฟื้นตัวเร็ว เนื่องจากแผลเล็กและกระทบเนื้อเยื่อไม่มาก | อาจใช้เวลาพักฟื้นนานกว่า |
| วัสดุที่ใช้ | สลายได้เอง ตามธรรมชาติภายใน 6-12 เดือน (วัสดุชีวภาพ) | บางวิธีอาจใช้วัสดุแบบถาวรหรือไม่สลายตัว |
| การสร้างคอลลาเจน | กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผลลัพธ์ดูนุ่มนวลและยืดหยุ่น | มุ่งเน้นไปที่การดึงทางกายภาพ อาจไม่เน้นการสร้างคอลลาเจน |
| ความเหมาะสม | เหมาะกับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ เป็นธรรมชาติ และเน้นการฟื้นตัวที่รวดเร็ว | อาจเหมาะกับผู้ที่มีผิวหนังหย่อนคล้อยมาก หรือต้องการการเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างที่ชัดเจน |
ใครบ้างที่เหมาะกับการทำเอนโดโทน์

- เหมาะสำหรับคนที่มีตาสองชั้นหลบใน ที่เกิดจากความหย่อนคล้อยของผิว
- เหมาะสำหรับผู้ที่มีรอยพับ ร่องลึก และริ้วรอยบริเวณหน้าผากให้เห็นอย่างชัดเจน แม้ไม่ได้แสดงสีหน้า
- เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาหนังตาตก หรือหางตาตก
- เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการผ่าตัดยกกระชับที่เปิดแผลกว้าง หรือผู้ที่กังวลเรื่องรอยแผลเป็น
- เหมาะสำหรับที่ต้องการเห็นผลลัพธ์ระยะยาว 5-10 ปี โดยไม่ต้องทำหัตถการฉีดโบท็อกบ่อยๆ
- เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาความหย่อนคล้อยของใบหน้าส่วนบน เช่น คิ้วสองข้างอยู่ในตำแหน่งไม่เท่ากัน มีระยะห่างระหว่างคิ้วกับชั้นตาแคบ รวไปถึงมีริ้วรอยระหว่างคิ้วและดวงตา
ใครบ้างที่ไม่เหมาะกับการทำเอนโดโทน์
การดึงหน้าผากด้วยเอนโดไทน์อาจไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุดสำหรับคนกลุ่มนี้ เพราะข้อจำกัดของเทคนิคและความเสี่ยงด้านสุขภาพ
- คนที่มีผิวหนังหย่อนคล้อยมาก ๆ : โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่มีผิวหน้าผากหย่อนเยอะมาก เพราะเทคนิคเอนโดไทน์ ไม่ได้ตัดผิวหนังส่วนเกินออก การดึงจึงอาจไม่เห็นผลชัดเจน หรือผลลัพธ์อยู่ได้ไม่นานเท่าที่ควร
- คนที่มีผิวหนังบางมาก: การดึงและยึดผิวหนังอาจทำให้เกิดอาการ บวม ชา หรือมีความเสี่ยงที่ผิวหนังจะเสียหายได้ง่ายกว่าปกติ
- คนที่มีโรคผิวหนังหรือปัญหาผิวรุนแรง: ผู้ที่มีปัญหาผิวหนังบางชนิดที่รุนแรงบริเวณหน้าผาก ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการหายของแผลและการฟื้นตัวหลังผ่าตัด
- คนที่มีปัญหาเลือดออกง่าย: ผู้ที่กินยาป้องกันเลือดแข็งตัว หรือมีภาวะเลือดหยุดไหลยาก อาจเสี่ยงต่อการเกิดภาวะเลือดออกผิดปกติระหว่างหรือหลังการผ่าตัด
- คนที่มีโรคประจำตัวรุนแรง: ผู้ที่มีโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง หรือโรคหลอดเลือดที่ยังควบคุมอาการได้ไม่ดี ต้องได้รับการประเมินอย่างละเอียด จากศัลยแพทย์ก่อนทำ เพื่อป้องกันอันตรายจากภาวะแทรกซ้อน
- คนที่เคยทำตาสองชั้นแบบชั้นตาหนามาแล้ว: การดึงหน้าผากด้วยเอนโดไทน์อาจไปดึงเนื้อเยื่อบริเวณเบ้าตาให้ยกขึ้น ซึ่งอาจทำให้ชั้นตาเดิมหลุด หรือทำให้เกิดปัญหาเบ้าตาลึก ได้
- คนที่มีข้อจำกัดด้านค่าใช้จ่าย: เนื่องจากเทคนิคเอนโดไทน์มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงกว่าวิธีการดึงหน้าผากแบบอื่น ๆ
เอนโดไทน์ ช่วยเรื่องอะไรบ้าง

ศัลยกรรมเอนโดไทน์เป็นอีกวิธีของการดึงหน้าผากที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศเกาหลี โดยการผ่าตัดผ่านกล้องทำให้การผ่าตัดมีแผลขนาดเล็ก และมีความแม่นยำสูงในการใส่วัสดุเอนโดโทน์ (endotine) ซึ่งจะช่วยแก้ไขปัญหาต่างๆได้ดังนี้
ลดขนาดหน้าผาก
เป็นการผ่าตัดเพื่อปรับกรอบหน้าบริเวณไขผมให้มีความแคบลง โดยการกรีดซ่อนแผลที่มีขนาดเล็กไว้ที่บริเวณแฮร์ไลน์ จึงทำให้รอยแผลดูกรมกลืนเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับผู้ที่หน้าผากกว้างมากกว่า 5-6 เซนติเมตร เพื่อให้บริเวณหน้าผากมีอัตราส่วนรับส่วนอื่นของใบหน้า
แก้ปัญหาคิ้วตก
การผ่าตัดการผ่าตัดดึงหน้าผากและคิ้วผ่านกล้อง (Endoscopic Forehead & Brow Lift) เป็นการยกกระชับผิวหนังบริเวณคิ้วให้ยกสูงขึ้น จึงช่วยแก้ทำปัญหาคิ้วตกได้อย่างตรงจุด นอกจากนี้ยังช่วยทำให้มีช่องว่างระหว่างคิ้วกับชั้นตาเพิ่มขึ้นอีกด้วย
ลดรอยย่นที่หน้าผาก
การยกกระชับด้วยเอนโดไทน์ จะช่วยทำให้เกิดการดึงผิวหนังด้วยแรงที่สม่ำเสมอ ซึ่งเป็นข้อแตกต่างของการยกกระชับจากการเย็บด้วยไหมแบบธรรมดา ที่ใช้แรงดึงจากจุดเดียว จึงทำให้ริ้วรอย หรือเส้นลึกบริเวณหน้าผากจางหายไป
ช่วยหนังตาหย่อน/หนังตาตก
การผ่าตัดยกกระชับด้วยเอ็นโดไทน์ เป็นการวัสดุที่ใช้ในการผ่าตัดเพื่อดึงผิวหนังบริเวณหน้าผาก ให้ยกขึ้นไปซึ่งสามารถช่วยแก้ปัญหาตาสองชั้นหลบใน ที่เกิดจากหนังตาตก หนังตาหย่อนได้อย่างตรงจุด ทำคนไข้กลับมามีชั้นตาเดิมที่ชัดขึ้น ดวงตาดูกลมโตขึ้นได้ทันที
ข้อดีของการทำเอนโดไทน์
- เป็นวัสดุทางการแพทย์ที่มีความปลอดภัยสูง ได้รับการยอมรับ FDA จากอเมริกา ว่าไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย
- เป็นการผ่าตัดผ่านกล้อง Endoscopic จึงทำให้มีความแม่นยำ และมีความปลอดภัยสูง กว่าการผ่าตัดดึงหน้าในแบบเดิม
- วัสดุเอนโดโทน์ (endotine) ช่วยเพิ่มแรงดึงให้มีความสม่ำเสมอมากกว่าการผ่าตัดยกกระชับแบบทั่วไป จึงทำให้ผลลัพธ์การยกกระชับที่ดีกว่า
- endotine เป็นวัสดุที่สามารถย่อยสลายไปได้เองภายใน 1 ปี โดยไม่มีสารตกค้างภายในร่างกาย
- เป็นการผ่าตัดยกกระชับที่มีแผลขนาดเล็ก (ซ่อนหลังแนวผม) จึงไม่ต้องกังวลในเรื่องของรอยแผลเป็น การผสานแผลรวดเร็ว
- เจ็บน้อย และมีอาการบวมช้ำน้อยกว่าการผ่าตัดดึงหน้าแบบทั่วไป ผลข้างเคียงหลังผ่าตัดน้อย จึงทำให้ฟื้นตัวได้เร็ว ใช้ระยะเวลาในการพักฟื้นไม่นาน
- ให้ผลลัพธ์ที่ดีในระยะยาว สามารถอยู่ได้นาน 5-10 ปี
- ใช้ระยะเวลาการผ่าตัดที่สั้นกว่าการผ่าตัดยกกระชับด้วยการเย็บแบบเดิม
ข้อเสียของการทำเอนโดไทน์
- การทำเอนโดไทน์เป็นการผ่าตัดที่ค่อนข้างซับซ้อนต้องทำการผ่าตัดโดยศัลยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ ในห้องผ่าตัดที่ได้มาตรฐานปลอดภัยจากเชื้อโรคต่างๆ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
- หลังการผ่าตัดเส้นประสาทกระทบกระเทือน ทำให้มีอาการชาที่บริเวณหนังศีรษะ หน้าผาก หรือคิ้วชั่วคราว
- เป็นการผ่าตัดที่ต้องใช้ยาสลบ หากไม่ได้รับการดูแลจากวิสัญญีแพทย์ที่เชี่ยว อาจทำให้เกิดอันตรายในขณะผ่าตัดได้
- ศัลยแพทย์เฉพาะทางในไทยที่มีฝีมือเป็นที่ยอมรับยังมีไม่มากนัก จึงอาจต้องเดินทางไปทำเอ็นโดไทย์ที่เกาหลี
การเตรียมตัวก่อนทำเอนโดไทน์

- ศึกษาข้อมูลของการทำเอนโดไทน์อย่างละเอียดด้วยตัวเอง พร้อมศึกษาประวัติและข้อมูลความเชี่ยวชาญชาญของแพทย์ เช่นวิทยานิพนธ์ หรือ การเข้าร่วมบรรยายเกี่ยวกับด้านศัลยกรรมต่างๆ
- นัดปรึกษาแพทย์ด้วยตัวเอง เพื่อพูดคุยถึงปัญหารับฟังคำแนะนำ ร่วมวางแผนการแก้ไข และทำความเข้าใจให้ตรงกัน
- แจ้งประวัติอาการแพ้ยา โรคประจำตัวและยาที่รับประทานเป็นประจำให้แพทย์ทราบ เนื่องจากอาจมีผลต่อการผ่าตัด
- งดรับประทานยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่นยาในกลุ่มแอสไพริน ( Aspirin ) และไอบูโพรเฟน ( Ibuprofen ) รวมถึงวิตามินทุกชนิด
- งดน้ำ งดอาหาร รวมถึงลูกอม และการเคี้ยวหมากฝรั่งอย่างน้อย 8 ชม. ก่อนการผ่าตัด
- นอนพักผ่อนให้เพียงพอ และเตรีมร่างกายให้แข็งแรง พร้อมสำหรับการผ่าตัด
- ก่อนการผ่าตัดควรสระผมให้สะอาด เนื่องจากหลังผ่าตัด ห้ามไม่ให้แผลโดนน้ำอย่างน้อย 7 วัน
- หากมีการทาเล็บ ต่อเล็บให้ล้างทำความสะอาดออกให้หมด เนื่องจากในขณะการผ่าตัดวิสัญญีแพทย์จำเป็นต้องคอยสังเกตอาการของคนไข้อย่างใกล้ชิด และไม่ควรไม่ใส่ของมีค่ามาในวันผ่าตัด
- งดการสูบบุหรี่ และงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนการผ่าตัด
ขั้นตอนการผ่าตัดศัลยกรรมเอนโดไทน์
- แพทย์จะทำการประเมินแนวทางการแก้ไขปัญหาและทำความเข้าใจกับคนไข้อีกครั้งก่อนเข้าห้องผ่าตัด
- คนไข้เข้ารับการตรวจร่างกายอย่างละเอียดก่อนผ่าตัด เช่น ตรวจเลือด วัดความดัน คลื่นหัวใจ
- วางยาสลบโดยวิสัญญีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของตัวคนไข้
- ศัลยแพทย์ทำการเปิดแผลที่มีขนาดไม่เกิน 2 เซนติเมตร จำนวน 2-3 จุด เพื่อสอดกล้องเอนโดสโคปลงไป ซึ่งจะช่วยทำให้การผ่าตัดมีความแม่นยำสูง
- ศัลยแพทย์ทำการผ่าตัดเลาะแยกชั้นเนื้อเยื่อหุ้มกระดูกออกจากกะโหลกศีรษะ เพื่อใส่วัสดุ Endotine เอนโดไทน์ ดึงและยึดกล้ามเนื้อที่หย่อนคล้อยให้เกิดการยกกระชับ
- เย็บปิดแผลซ่อนเก็บตามไรให้แนบเนียน เพื่อไม่ทำให้เกิดรอยแผลเป็น
หลังทำเอนโดไทน์ ดูแลตัวเองอย่างไร?

- หลังการทำเอนโดไทน์ในช่วง 2-3 วันแรกแนะนำให้นอนหมอนสูง เพื่อช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ทำให้อาการบวมต่างๆหายได้อย่างรวดเร็ว
- ในช่วง 48-72 ชั่วโมงหลังจากออกจากห้องผ่าตัด ควรประคบเย็นบริเวณใบหน้าให้มากที่สุด จากนั้นค่อยๆ เปลี่ยนเป็นประคบในตอนกลางคืนอย่างต่อเนื่องประมาณ 1-2 สัปดาห์
- หลังการดึงหน้าผาก ยกคิ้วด้วยศัลยกรรมเอนโดไทน์ ต้องใส่ที่รัดหน้าตลอด 24 ชม. เป็นเวลาอย่างน้อย 7 วัน เพื่อให้ผิวหนังและกล้ามเนื้อมีสมานกันได้อย่างเร็ว จากนั้นใช้ผ้ารัดเฉพาะบริเวณกลางคืนต่อเป็นเวลา 1 เดือน
- ในช่วง 1-2 สัปดาห์ หลีกเลี่ยงกิจกรรม และการออกกำลังกายที่อาจส่งผลทำให้เกิดการกระทบกระเทือนที่แผล
- ทานยาตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันอาการแทรกซ้อนทีาอาจเกิดขึ้นได้
- พบแพทย์ตามนัดเพื่อตรวจเช็คอาการ และประเมินผลลัพธ์หลังการผ่าตัด
- แนะนำให้ใส่แว่นตาหรือหวก เพื่อปกป้องรอยแผลจากการสัมผัสกับแสงแดดโดยตรง แต่คนไข้สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ
- งดอาหารแสลง อาหารหมักดอง อาหารรสจัด อาหารที่มีโซเดียมสูง เพื่อป้องกันการอักเสบและอาการบวมช้ำนานกว่าปกติ
อาการและผลข้างเคียงหลังผ่าตัดยกคิ้ว เอนโดไทน์
- หลังการผ่าตัดอาจมีอาการบวมช้ำลงมาจนถึงใต้ตา แต่รอยช้ำจะค่อยๆดีขึ้นภายใน 1 สัปดาห์ และรอยช้ำจะจางลงไปจนหายเป็นปกติใน 2-4 สัปดาห์
- หลังการผ่าตัดคนไข้อาจรู้สึกปวดระบบบริเวณแผลและบริเวณโดยรอบ สามารถทานยาเพื่อลดอาการได้
- หลังการผ่าตัดอาจมีภาวะแทรกซ้อนเช่น เกิดการติดเชื้อที่แผลผ่าตัด มีเลือดซึมบริเวณแผลผ่าตัด และ แผลหายไม่สนิทหรือแผลหายช้ากว่าปกติ
- มีอาการชาบริเวณหน้าผาก หนังศีรษะ และบริเวณคิ้วเนื่องจากเส้นประสาทได้รับการบาดเจ็บ
เอนโดไทน์ราคาเท่าไหร่
การทำเอนโดไทน์เป็นเทคนิคการผ่าตัดยกกระชับที่มีต้นกำเนิดมาจากเกาหลี ดังนั้นศัลยแพทย์ของเกาหลีจึงมีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ในการผ่าตัดมาอย่างยาวนาน จึงทำให้คนไทยจำนวนไม่น้อยที่ยอมบินลัดฟ้าไปศัลยกรรมกับโรงพยาบาลเฉพาะทาง ซึ่งราคา
เอนโดไทน์หน้าผาก และเอนโดไทน์ยกคิ้วจะอยู่ที่ 9 ล้านวอน หรือราว ๆ 250,000 บาท
จุดเด่นของการยกคิ้ว ดึงหน้าด้วยเอนโดไทน์ที่ SU:I ดียังไง?

- ผ่าตัดโดยศัลยแพทย์เฉพาะทางที่มีประสบการมากกว่า 20 ปี ที่มีเทคนิคการผ่าตัดแบบเฉพาะ ด้วยระบบการผ่าตัดที่มีการดูแลคนไข้แบบ 1:1 โดย Dr. Ahn Tae Joo
- ที่ SU:I มีอุปกรณ์และเครื่องมือการผ่าตัด รวมถึงตัวยาทุกอย่างเป็นของแท้ที่ได้มาตรฐาน ผ่ายการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข และมาตรฐาน FDA
- มีโปรแกรมการตรวจร่างกายของคนไข้อย่างละเอียดทุกเคส เช่นคลื่นหัวใจ ความดัน ตรวจเลือด เพื่อให้คนไข้ได้รับความปลอดภัยมากที่สุด
- มีวิสัญญีวิทยาที่เชี่ยวชาญเป็นผู้ประเมินการใช้ยาสลบ และคอยเฝ้าสังเกตอาการอย่างใกล้ชิดผ่านจอภาพไบโอเมตริกตลอดการผ่าตัด
- ในห้องผ่าตัดมีอุปกรณ์กู้สัญญาชีพ เครื่องกระตุ้น และเครื่องสำรองไฟ UPS ไว้รับมือกับเหตุฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นได้ในขณะผ่าตัด
- ห้องผ่าตัดและอุปกรณ์ได้รับการดูแลความสะอาด ฆ่าเชื้ออย่างทั่วถึง จึงช่วยลดความเสี่ยงต่อการติดเชื่อในขณะผ่าตัดให้เป็นศูนย์
- คนไข้ทุกเคสจะได้รับการ follow up จากศัลยแพทย์เจ้าของด้วยตัวเองทุกเคส
- มีโปรแกรมลดบวมเพื่อให้คนไข้สามารถฟื้นฟูได้ไว เช่น เครื่องอบออกซิเจน O2 Pressure Chamber Therapy และการฉายแสงลดบวม
เอนโดไทน์ ที่ไหนดี
- เลือกทำกับคลินิกที่มีมาตรฐานความปลอดภัย และมีเชื่อเสียงเฉพาะทางด้านการทำศัลยกรรมยกกระชับ
- เลือกทำกับแพทย์ที่มีชื่อเสียง และมีผลงานเป็นที่ยอมรับจากทั้งในและต่างประเทศ เพื่อเป็นเครื่องการันตรีถึงผลลัพธ์ที่จะได้หลังการผ่าตัด
- เลือกคลินิกที่มั่นใจว่าใช้อุปกรณ์ ยา และเครื่องมือการผ่าตัดที่เป็นของแท้ ผ่านมาตรฐานการรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
- เลือกคลินิกที่มีวิสัญญีแพทย์เป็นผู้วางยาสลบ และเฝ้าสังเกตอาการของคนไข้ตลอดการผ่าตัด
- เลือกคลินิกที่มีศัลยแพทย์เป็นผู้ดูแลให้คำปรึกษา ผ่าตัด และติดตามอาการแบบ 1:1
- เลือกคลิกนิกที่มีการตลาดแบบ Word of Mouth เพราะนั่นแสดงให้เห็นถึงคุณภาพ และความพึงพอใจของคนไข้
ดึงหน้า เอนโดไทน์ รีวิว


คำถามที่พบบ่อย
เอนโดไทน์ อยู่ได้นานไหม
การศัลยกรรมเอนโดไทน์ เพื่อดึงหน้าผาก ยกคิ้ว เป็นการยกกระชับที่ให้ผลลัพธ์แบบกึงถาวร สามารถอยู่ได้ 5-10 ปี (ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลตัวเองหลังผ่าตัดของแต่ละบุคคล)
การดึงหน้าผากด้วยเอนโดไทน์ต้องทำซ้ำหรือไม่?
การดึงหน้าผากด้วยเอนโดไทน์มักให้ผลลัพธ์ที่ยาวนานประมาณ 3-5 ปี หรือนานกว่านั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัยของแต่ละคน เช่น สภาพผิว อายุ และการดูแลตัวเอง
- หมุดสลายตัว แต่ผลลัพธ์อยู่ต่อ: แม้วัสดุเอนโดไทน์จะละลายหายไปเอง ภายใน 6-12 เดือน แต่การยกกระชับที่เกิดขึ้น รวมถึงการที่หมุดไปช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว จะช่วยคงความตึงกระชับไว้ได้นานหลายปี
- ไม่ต้องทำซ้ำบ่อย: โดยทั่วไป ไม่จำเป็นต้องทำซ้ำบ่อยนัก โอกาสและความจำเป็นในการทำซ้ำจะน้อยมาก
- ทำซ้ำได้ตามต้องการ: หากในอนาคตมีปัญหาผิวหย่อนคล้อยกลับมาตามวัย ก็สามารถทำซ้ำได้ ซึ่งศัลยแพทย์จะประเมินจากสภาพผิวและความต้องการ
เอนโดไทน์ อันตรายหรือไม่?
เอนโดไทน์ทำมาจากวัสดุ Bio-Plastic ที่มีความปลอดภัยสูง ผ่าการรับรองจาก USFDA ซึ่งหลังการผ่าตัดวัสดุ Endotine จะย่อยสลายไปภายใน 1 ปี โดยไม่เหลือตกค้างในร่างกาย แต่ประสิทธิภาพของผลลัพธ์จะอยู่ได้นาน 5-10 ปี
ทำเอนโดนไทน์ กี่วันหาย?
หลังกาาผ่าตัดดึงหน้าด้วยเอนโดไทน์ในช่วง 1 – 2 สัปดาห์ ใบหน้าอาจจะมีอาการบวมและมีรอยช้ำเล็กน้อยหลงเหลือบ้างเล็กน้อย ซึ่งจะค่อยๆหายไปช่วงใน 2 – 3 สัปดาห์ และใบหน้าเริ่มเข้าที่มากที่สุดในช่วง 1 – 3 เดือนหลังผ่าตัด
ศัลยกรรมดึงหน้าเอนโดไทน์ เจ็บไหม?
ในขณะเข้ารับการผ่าตัดคนไข้จะได้รับการวางยาสลบ ดังนั้นจึงไม่รู้สึกถึงความเจ็บในขณะทำ แต่หลังจากที่คนไข้ฟื้นแล้วอาจรู้สึกปวดตึงบริเวณแผลเล็กน้อย ซึ่งสามารถรับประทานยาตามที่แพทย์สั่งจ่าย เพื่อลดอาการได้
ศัลยกรรมเอนโดไทน์มีแผลหลังผ่าตัดไหม
การผ่าตัดยกกระชับเอนโดไทน์ แพทย์ผ่าตัดเปิดรอยแผลเล็กๆ และเย็บเก็บซ่อนแผลไว้ที่บริเวณไรผมด้านบน ดังนั้นหลังผ่าตัดจึงไม่ทิ้งรอยแผลเป็นให้ต้องกังวล
ทำจมูกพร้อมการดึงหน้าผากด้วยเอนโดไทน์ด้วยได้ไหม?
ขึ้นอยู่กับการประเมินของศัลยแพทย์ โดยทั่วไปสามารถทำศัลยกรรมจมูกร่วมกับการดึงหน้าผากได้ แต่หากเป็นการทำจมูกแบบผ่าตัดเปิด (Open Rhinoplasty) ที่มีการต่อกระดูก ศัลยแพทย์อาจจะแนะนำให้แยกทำคนละครั้ง และเว้นช่วงเวลาพักฟื้น เพื่อป้องกันไม่ให้มีอาการบวมช้ำและเลือดไหลไปคั่งสะสมในบริเวณที่เพิ่งดึงหน้าผาก ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อผลลัพธ์การผ่าตัดได้
การดึงหน้าผากด้วยเอนโดไทน์ จะทำให้หน้าผากกว้างขึ้น และช่วยให้ชั้นตาดูใหญ่ขึ้นไหม?
ไม่ทำให้หน้าผากกว้างขึ้นโดยตรง การทำเอนโดไทน์ช่วยแค่ยกกระชับ ผิวและเนื้อเยื่อที่หย่อนคล้อยให้ตึงขึ้น ไม่ได้ขยายพื้นที่หน้าผากให้กว้างขึ้น แต่คิ้วและหน้าผากถูกยกสูงขึ้น ทำให้เปลือกตาดูเปิดกว้างขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ (เหมือนตาดูโตขึ้น) แต่ไม่ได้เป็นการขยายขนาดดวงตาโดยตรง
หลังการดึงหน้าผากด้วยเอนโดไทน์ ยังต้องฉีดโบท็อกซ์/ฟิลเลอร์อยู่ไหม?
อาจยังจำเป็น ถึงแม้จะมีการดึงหน้าผากแล้ว ยังอาจต้องฉีดโบท็อกซ์หรือฟิลเลอร์ ในบริเวณอื่น ๆ บนใบหน้าที่ไม่ได้ผ่าตัด เช่น ร่องแก้ม หรือรอยย่นระหว่างคิ้ว เพื่อปรับแต่งรายละเอียด และช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์และสดใสอย่างสมบูรณ์
สามารถทำร่วมกับการศัลยกรรมตาอื่น ๆ ได้หรือไม่?
ทำได้และช่วยเสริมผลลัพธ์ การดึงหน้าผากด้วยเอนโดไทน์ สามารถทำร่วมกับการศัลยกรรมตาอื่น ๆ ได้ เช่น การทำตาสองชั้น หรือการแก้ไขถุงใต้ตา การทำพร้อมกันจะช่วยเสริมให้ผลลัพธ์การยกกระชับและการปรับรูปลักษณ์ดูอ่อนวัยและสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น
Endotine จะสลายไปเมื่อไหร่ และเมื่อสลายแล้วคิ้วจะตกกลับมาเหมือนเดิมหรือไม่?
หมุดสลายตัวแต่ผลลัพธ์อยู่ต่อ หมุดเอนโดไทน์จะสลายไปเองภายใน 6-12 เดือน แต่ผลลัพธ์การยกกระชับจะอยู่ได้นานหลายปี เพราะมีการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิว เมื่อหมุดสลายไปแล้ว คิ้วอาจมีแนวโน้มที่จะตกเล็กน้อยตามอายุที่เพิ่มขึ้น (กระบวนการตามวัย) แต่จะไม่ตกกลับไปเท่าเดิมทันที ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการดูแลหลังผ่าตัดและสภาพผิวของแต่ละคน
หลังผ่าตัดสามารถสระผมได้เมื่อไหร่?
รอจนกว่าแผลจะหายดี เพื่อป้องกันการติดเชื้อและให้แผลฟื้นตัวได้อย่างสมบูรณ์ โดยทั่วไปศัลยแพทย์จะแนะนำให้ เว้นการสระผมอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ หรือจนกว่าแผลผ่าตัดบริเวณไรผมจะแห้งสนิทดีแล้ว ควรสอบถามคำแนะนำที่ชัดเจนจากศัลยแพทย์
สรุป
เอนโดไทน์ คือเทคนิคการยกกระชับที่ทันสมัย โดยใช้วัสดุทางการแพทย์รูปหมุดขนาดเล็กเป็นตัวยึดเนื้อเยื่อ ซึ่งจะทำผ่านการผ่าตัดส่องกล้อง ทำให้แผลมีขนาดเล็กมากและฟื้นตัวได้เร็ว หลักการทำงานคือการกระจายแรงดึงอย่างสม่ำเสมอ เพื่อแก้ไขปัญหาคิ้วตก หนังตาหย่อน และริ้วรอยบนหน้าผากได้อย่างเป็นธรรมชาติ หมุดเอนโดไทน์จะสลายตัวไปเอง ภายใน 6-12 เดือน แต่ผลลัพธ์การยกกระชับจะ คงทนยาวนาน 5-10 ปี หรือนานกว่านั้นเนื่องจากมีการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
เทคนิคนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยของใบหน้าส่วนบน แต่ไม่เหมาะกับผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อยมากเกินไป ผิวบาง หรือผู้ที่มีโรคประจำตัวที่ควบคุมไม่ได้ ดังนั้น การเลือกศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมตกแต่งรอบดวงตาโดยเฉพาะ และการเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดต่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ
SU:I PLASTIC SURGERY เป็นคลินิกศัลยกรรมเฉพาะทางด้านจมูกตา รวมถึงการยกกระชับชลอวัยโดยมี Dr. Ahn Tae Joo เป็นศัลยแพทย์เจ้าของ และทำการผ่าตัดให้กับคนไข้ด้วยตัวเองทุกเคสด้วยความใส่ใจ ทำให้ที่คลินิกรับคนไข้เพียงวันละไม่กี่เคสเท่านั้น เพื่อให้คนไข้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด จึงการทำอินโดไทน์ Endotine ให้ที่ SU:I PLASTIC SURGERY ได้รับการบอกต่อจากคนไข้แบบ Word of Mouth มากที่สุดในเกาหลี
เอกสารอ้างอิง
1. R Laurence Berkowitz, Daniel I Jacobs, and Paul J Gorman. (2025). Brow fixation with the Endotine Forehead device in endoscopic brow lift. แหล่งข้อมูล : https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/16267444/
2. Paloma Belle Perez, Anne Elizabeth Gunter, and et al. (2021). Investigating Long-Term Brow Stabilization by Endotine-Assisted Endoscopic Brow Lift with Concomitant Upper Lid Blepharoplasty. แหล่งข้อมูล : https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/33631951/
3. Endotine® .Browlift. (n.d.). แหล่งข้อมูล : https://www.ssau.au/wp-content/uploads/2022/05/Endotine-Browlift-Patient-Information-May-2022.pdf
4. Ann Pietrangelo. (2019). What to Know About Double Eyelids: Surgical Options, Nonsurgical Techniques, and More. แหล่งข้อมูล : https://www.healthline.com/health/double-eyelid





