ผิวหน้าหย่อนคล้อย เกิดจาก เกิดช่วยอายุเท่าไหร่บ้าง
ทีมแพทย์ SU:I
ทีมแพทย์ SU:I

ผิวหน้าหย่อนคล้อย คืออะไร? เกิดจากอะไร? เริ่มหย่อนคล้อยอายุเท่าไร?

ผิวหน้าหย่อนคล้อย เกิดจาก เกิดช่วยอายุเท่าไหร่บ้าง

ถ้าเริ่มรู้สึกว่าใบหน้าไม่กระชับเหมือนเคยและมีริ้วรอยมากขึ้น ไม่ต้องกังวลไป บทความนี้จะพาไปทำความเข้าใจถึงสาเหตุที่แท้จริง ไม่ว่าจะเป็นสาเหตุตามธรรมชาติ หรือพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน รวมไปถึงช่วงอายุที่ควรเริ่มดูแลตัวเองเป็นพิเศษ พร้อมแนะนำวิธีชะลอความหย่อนคล้อยได้อย่างตรงจุด เพื่อให้พร้อมรับมือกับปัญหาผิวได้อย่างมั่นใจ

ผิวหน้าหย่อนคล้อย คืออะไร

ผิวหน้าหย่อนคล้อย คือภาวะที่ผิวเริ่มหย่อนลงไม่กระชับเหมือนแต่ก่อน สังเกตได้ง่าย ๆ จากความยืดหยุ่นที่ลดลง ลองเช็กตัวเองดูว่ามีสัญญาณเหล่านี้บ้างไหม ดังนี้

  • รู้สึกว่าผิวไม่ค่อยเต่งตึงเหมือนเดิม
  • กรอบหน้าและแนวกรามเริ่มไม่ชัด
  • มีรอยพับ ร่องแก้ม หรือร่องน้ำหมาก
  • รูปหน้าดูเปลี่ยนไปจากเมื่อก่อน
  • เปลือกตาเริ่มหนัก ลืมตาได้ยากขึ้น
  • ถ้ามีอาการเหล่านี้ แสดงว่าผิวหน้ากำลังเริ่มหย่อนคล้อยแล้ว

ผิวหน้าหย่อนคล้อย เกิดจากอะไร

สาเหตุที่ทำให้ผิวหย่อนคล้อย ส่วนใหญ่มาจากปัจจัย ดังนี้

  • อายุ เมื่ออายุเพิ่มขึ้น ร่างกายจะผลิตคอลลาเจน และอีลาสติน ซึ่งเป็นโปรตีนสำคัญที่ทำให้ผิวเต่งตึงและยืดหยุ่นได้น้อยลง ทำให้ผิวหย่อนคล้อยไม่กระชับเหมือนเคย
  • พันธุกรรม บางคนอาจมีโครงสร้างผิวที่ไม่แข็งแรง หรือมีคอลลาเจนน้อยกว่าปกติ ทำให้มีโอกาสที่ผิวจะหย่อนคล้อยเร็วกว่าคนอื่น
  • แรงโน้มถ่วง ผิวถูกดึงลงตามแรงโน้มถ่วงของโลกอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะกับคนที่มีผิวบางหรือไม่แข็งแรง ก็จะเห็นความเปลี่ยนแปลงได้ชัดกว่า
  • แสงแดด รังสียูวีจากแสงแดดเป็นตัวการสำคัญที่เข้าไปทำลายคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิว ทำให้ผิวเสื่อมสภาพและหย่อนคล้อยเร็วยิ่งขึ้น
  • ปริมาณไขมัน การที่ไขมันใต้ผิวลดลงมากเกินไป ทำให้ผิวเกิดการยุบตัวและไม่กระชับ
  • พฤติกรรมในชีวิตประจำวัน การสูบบุหรี่ หรือการนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ ส่งผลกระทบต่อการไหลเวียนของเลือดและการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวหย่อนคล้อยได้ง่ายขึ้น

ปัญหาผิวหย่อนคล้อย ในแต่ละช่วงอายุ

ปัญหาผิวหย่อนคล้อย ในแต่ละช่วงอายุ

ปัญหาผิวหย่อนคล้อยในแต่ละช่วงวัยมีลักษณะและสาเหตุที่แตกต่างกันไป มาดูกันว่าในแต่ละช่วงอายุผิวหน้าของคุณเป็นแบบไหน

  • อายุ 30 ปี
    ช่วงวัยนี้ผิวเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด เพราะการผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินเริ่มลดลง ทำให้ผิวไม่กระชับเหมือนเดิม อาจสังเกตเห็นริ้วรอยเล็ก ๆ รอบดวงตาและร่องแก้ม รวมถึงผิวที่ดูหมองคล้ำ มีจุดด่างดำ หรือฝ้าจากฮอร์โมนและแสงแดด นอกจากนี้ รูขุมขนอาจดูกว้างขึ้น และผิวเริ่มแห้งง่ายกว่าปกติ
  • อายุ 40 ปี
    ในวัย 40+ ปัญหาผิวจะเริ่มชัดเจนขึ้น ริ้วรอยจะดูเป็นร่องลึก ผิวหย่อนคล้อยมากขึ้นและดูบางลง ชั้นผิวเริ่มอ่อนแอและชั้นไขมันใต้ผิวลดลง ทำให้ผิวหน้าโดยรวมดูไม่กระชับและไม่เต่งตึงเหมือนเมื่อก่อน รวมถึงฝ้าและจุดด่างดำก็เริ่มเห็นชัดเจนขึ้นด้วย
  • อายุ 50 ปี
    เมื่อเข้าสู่ช่วงวัย 50+ ผิวจะหย่อนคล้อยและบางลงอย่างเห็นได้ชัด ริ้วรอยจะลึกขึ้นมาก และรูขุมขนก็กว้างขึ้นกว่าเดิม นอกจากนี้ โครงสร้างใบหน้าอาจมีการยุบตัวลง ทำให้รูปหน้าเปลี่ยนไป และผิวจะดูแห้งกร้าน ไม่เปล่งปลั่ง เพราะขาดความชุ่มชื้นอย่างมาก

ผิวหย่อนคล้อยทำไงดี แก้ได้อย่างไรบ้าง

ผิวหย่อนคล้อย แก้ด้วยวิธีไหนได้บ้าง

มาดูวิธีแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อยยอดนิยมและเห็นผลกัน ดังนี้

ศัลยกรรมดึงหน้า (Face-Lift)

นี่คือวิธีที่ได้ผลชัดเจนและถาวรที่สุด เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยมาก ๆ และต้องการผลลัพธ์แบบเด็ดขาด การผ่าตัดจะช่วยยกกระชับผิวได้ทุกส่วน ทั้งหางตาตก แก้มห้อย คอหย่อนคล้อย และช่วยให้กรอบหน้ากลับมาคมชัดอีกครั้ง ผลลัพธ์อยู่ได้นานหลายปี และเหมาะกับคนที่ลองวิธีอื่นแล้วยังไม่พอใจ

การร้อยไหม

วิธีนี้เป็นการใช้ไหมละลายที่มีเงี่ยงสอดเข้าไปใต้ผิวเพื่อดึงผิวให้ตึงขึ้นทันที ช่วยปรับรูปหน้าให้ดูเรียวขึ้น และยังกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวอีกด้วย ผลลัพธ์จะเห็นได้ชัดเจนหลังทำ และจะดีที่สุดใน 1 เดือน ซึ่งจะอยู่ได้นาน 6 เดือนถึง 2 ปี ขึ้นอยู่กับชนิดของไหมที่ใช้

นวดยกกระชับใบหน้า

วิธีนี้สามารถทำได้เองง่าย ๆ ด้วยการใช้มือช่วยนวดรีดผิวและกล้ามเนื้อบนใบหน้า จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ทำให้หน้าดูไม่บวม และช่วยให้ผิวหน้าดูกระชับขึ้น วิธีนี้เหมาะกับการทำเป็นประจำทุกวัน เพื่อช่วยให้ผิวฟื้นฟูและเสริมประสิทธิภาพให้กับการทำหัตถการอื่น ๆ

เลือกแก้ผิวหน้าหย่อนคล้อยวิธีไหนดีที่สุด?

การแก้ไขปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อยที่ดีที่สุดในตอนนี้ก็คือ การศัลยกรรมดึงหน้า (Face-Lift) เพราะวิธีนี้เป็นการแก้ปัญหาที่ลึกถึงชั้นผิวและกล้ามเนื้อบนใบหน้า ทำให้ผลลัพธ์ที่ได้ชัดเจนและอยู่ได้นานที่สุด การผ่าตัดดึงหน้าไม่ได้ช่วยแค่ให้ผิวตึงขึ้นอย่างเดียว แต่ยังจัดการปัญหาได้หลายอย่างพร้อมกัน ทั้งหางตาตก แก้มห้อย คอหย่อนคล้อย และทำให้กรอบหน้ากลับมาคมชัดอีกครั้ง

ผลลัพธ์ของการดึงหน้าจะอยู่ได้นานหลายปี เหมาะสำหรับคนที่ผิวหน้าหย่อนคล้อยมาก หรือคนที่เคยลองวิธีอื่นแล้วยังไม่ถูกใจ แม้จะมีความเสี่ยงและผลข้าเคียงอยู่บ้าง แต่ถ้าเลือกทำกับศัลยแพทย์ที่มีความชำนาญก็มั่นใจได้เลยว่าปลอดภัยและได้ผลดีแน่นอน ที่สำคัญคือ หลังผ่าตัดต้องดูแลตัวเองและพักฟื้นตามคำแนะนำของศัลยแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อให้แผลหายเร็วและได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
เคล็ดลับป้องกันไม่ให้ผิวหน้าหย่อนคล้อย

อยากดูแลผิวหน้าไม่ให้หย่อนคล้อยใช่ไหม? ลองทำตามเคล็ดลับง่าย ๆ เหล่านี้ได้เลย

การป้องกันปัญหาผิวหย่อนคล้อย
  • ดูแลจากภายในด้วยอาหาร
    เน้นกินผักผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ๆ อย่างพวกเบอร์รี่หรือผักใบเขียวจะช่วยชะลอความแก่ของผิวได้ ที่สำคัญคือควรงดแอลกอฮอล์ บุหรี่ และอาหารแปรรูปต่าง ๆ เพราะสิ่งเหล่านี้ทำร้ายผิวเราสุด ๆ เลย
  • บริหารกล้ามเนื้อหน้า
    ลองบริหารกล้ามเนื้อใบหน้าด้วยท่าสนุก ๆ เช่น ยิ้มกว้าง ๆ เม้มปาก หรือเป่าแก้มดู การทำแบบนี้จะช่วยกระตุ้นกล้ามเนื้อบนหน้ากว่า 43 มัดให้แข็งแรงและลดการหย่อนคล้อยได้
  • นวดหน้าช่วยได้
    การนวดหน้าด้วยเทคนิคที่ถูกต้อง อย่างการใช้หินกัวซา จะช่วยให้เลือดไหลเวียนดีขึ้นและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวดูเต่งตึงและกระชับขึ้นได้
  • เลือกใช้สกินแคร์ให้ถูกจุด
    มองหาผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมอย่าง เรตินอล, เปปไทด์, วิตามินซี หรือกรดไฮยาลูโรนิก ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและเสริมสร้างคอลลาเจนให้กับผิว จะช่วยให้ผิวแข็งแรงและยกกระชับขึ้น
  • อย่าลืมทากันแดด
    รังสี UV จากแสงแดดเป็นตัวการหลักที่ทำให้ผิวหย่อนคล้อยและเกิดริ้วรอยก่อนวัยได้ง่ายมาก เพราะฉะนั้นอย่าลืมทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน
  • นอนให้พอ
    การนอนหลับไม่เพียงพอเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ผิวเสื่อมสภาพและหย่อนคล้อยเร็วขึ้น เพราะงั้นควรพักผ่อนให้เต็มที่
  • จัดการความเครียด
    เมื่อเราเครียด เลือดลมในร่างกายจะไม่ไหลเวียนดีเท่าที่ควร ลองออกกำลังกายหรือหาอะไรทำเพื่อผ่อนคลายความเครียดดู นอกจากจะดีต่อใจแล้วยังส่งผลให้ผิวดูสดใสและกระชับขึ้นด้วย
  • เลือกสกินแคร์ที่มีส่วนผสมหลักช่วยเรื่องความกระชับ
    • ถ้าอยากรู้ว่าผิวหน้าหย่อนคล้อยใช้อะไรดี? ลองดูคำแนะนำง่าย ๆ เหล่านี้ได้เลย
      เรตินอล (Retinol) ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวแน่นขึ้นและลดริ้วรอย
      เปปไทด์ (Peptides) เพิ่มความยืดหยุ่นและความกระชับให้ผิว
      วิตามินซี (Vitamin C) เป็นสารต้านอนุมูลอิสระชั้นดี ช่วยให้ผิวดูกระจ่างใสและกระชับขึ้น
      กรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) ช่วยเติมน้ำให้ผิว ทำให้ผิวดูอิ่มฟูและเต่งตึง
      ที่สำคัญอย่าลืมทาครีมกันแดด เพราะรังสี UV เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ผิวหย่อนคล้อยก่อนวัยอันควร เพราะฉะนั้นอย่าลืมเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีค่า SPF เพื่อปกป้องผิวจากแสงแดดเป็นประจำทุกวัน

แก้ผิวหน้าหย่อนคล้อยที่ SU: I Plastic Surgery ดีอย่างไร

ศัลยกรรมดึงหน้า แก้ผิวหย่อนคล้อย ที่ sui

ที่ SU: I Plastic Surgery มีดีอะไรกับการแก้ปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อย? มาดูจุดเด่นที่น่าสนใจของที่นี่กันเลย

  • ศัลยแพทย์มากประสบการณ์ ดูแลแบบส่วนตัว
  • ที่นี่มีศัลยแพทย์อันแทจู (Dr. Ahn Tae Joo) ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมตกแต่งมานานกว่า 20 ปี คอยดูแลอย่างใกล้ชิดแบบตัวต่อตัวตั้งแต่ขั้นตอนการปรึกษา วางแผนการผ่าตัด ไปจนถึงการติดตามผลหลังทำ ทำให้มั่นใจได้เลยว่าจะได้ผลลัพธ์ที่เข้ากับรูปหน้าและดูเป็นธรรมชาติที่สุด
  • เทคนิคผ่าตัดที่ลึกถึงกล้ามเนื้อ
  • การผ่าตัดดึงหน้าของ SU: I Plastic Surgery จะเน้นเทคนิคที่ลึกถึงชั้นกล้ามเนื้อ (SMAS) ซึ่งเป็นชั้นที่ช่วยเรื่องความกระชับโดยตรง ทำให้ใบหน้ายกขึ้นจริงและผลลัพธ์อยู่ได้นานถึง 5-10 ปี นอกจากนี้ ยังสามารถแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อยได้ครบทุกส่วน ทั้งหน้าผาก แก้ม และลำคอ
  • เทคโนโลยีทันสมัยและการดูแลหลังผ่าตัด
  • นอกจากเทคนิคที่ทันสมัยแล้ว SU: I Plastic Surgery ยังมีเครื่องมือที่ช่วยให้การผ่าตัดแม่นยำและปลอดภัย และที่สำคัญคือมีการดูแลหลังผ่าตัดอย่างดี เช่น ใช้เครื่องอบออกซิเจนบริสุทธิ์ (O2 Chamber) และการฉายแสง LED เพื่อช่วยลดอาการบวมช้ำและทำให้เนื้อเยื่อฟื้นตัวเร็วขึ้นด้วย
  • ผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัดและปลอดภัย
  • คนไข้หลายคนที่มาใช้บริการต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าใบหน้าดูยกกระชับขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ รูปหน้าเรียวสวย และดูอ่อนเยาว์ลงอย่างเห็นได้ชัดเลย ที่นี่เน้นเรื่องความปลอดภัยและมาตรฐานการดูแลอย่างสูงสุด ทำให้มั่นใจได้ทั้งเรื่องบริการและผลลัพธ์

คำถามที่พบบ่อย (FAQs)

ผิวหน้าเริ่มหย่อนคล้อยเมื่อไหร่?

ไม่มีช่วงอายุที่แน่นอน แต่สำหรับบางคนอาจเริ่มมีริ้วรอยและผิวหย่อนคล้อยได้ตั้งแต่ อายุ 25 ปี เป็นต้นไป อย่างไรก็ตาม ปัญหาเหล่านี้จะเริ่มสังเกตเห็นได้ชัดเจนขึ้นในช่วง อายุ 40-50 ปี

การร้อยไหมแก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อยได้ไหม?

การร้อยไหม เป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยแก้ไขปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อยได้ดี เพราะช่วยปรับรูปหน้าให้เป็น V-Shape และยกกระชับส่วนที่หย่อนคล้อยให้ตึงขึ้นได้ทันทีหลังทำ แต่ผลลัพธ์ที่ได้อาจอยู่ได้ไม่ถาวร และควรเลือกใช้บริการกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เพื่อป้องกันปัญหาใบหน้าไม่เป็นธรรมชาติ

ร่องแก้มลึกเกิดจากผิวหน้าหย่อนคล้อยหรือไม่?

ใช่ ปัญหาร่องแก้มลึกหรือร่องน้ำหมาก เกิดจากคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ผิวเสื่อมสภาพลง ซึ่งเป็นสาเหตุเดียวกับปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อยทั่วไป สามารถป้องกันและแก้ไขได้ด้วยวิธีเดียวกัน

สรุป

ปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อยเป็นเรื่องธรรมชาติที่เกิดขึ้นกับทุกคน โดยเฉพาะเมื่อเราอายุมากขึ้นหลัง 30 ปี เพราะร่างกายผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินได้น้อยลง ยิ่งรวมกับปัจจัยภายนอกอย่างแสงแดด พันธุกรรม และพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันด้วยแล้ว ก็ยิ่งทำให้ผิวหย่อนคล้อยเร็วขึ้น แม้ว่าการดูแลตัวเองด้วยสกินแคร์และการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจะช่วยชะลอปัญหาได้ แต่ถ้าอยากได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและอยู่ได้นาน การศัลยกรรมดึงหน้าก็ยังคงเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุด
ถ้ากำลังมองหาวิธีแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อยแบบครบวงจร ที่ SU: I Plastic Surgery ดูแลโดยศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์มากกว่า 20 ปี ด้วยเทคนิคการผ่าตัดที่ลงลึกถึงชั้นกล้ามเนื้อ การใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย และการดูแลหลังผ่าตัดแบบครอบคลุม ทำให้มั่นใจได้ว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติและอยู่ได้ยาวนานแน่นอน

เอกสารอ้างอิง

  1. Corey Whelan. (2019.). Why Do I Have Saggy Skin, and What Can I Do About It?. แหล่งข้อมูล : https://www.healthline.com/health/skin/saggy-skin
  2. T Ezure, J Hosoi, S Amano, and T Tsuchiya. (2009). Sagging of the cheek is related to skin elasticity, fat mass and mimetic muscle function. แหล่งข้อมูล : https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/19624426/
  3. Sarah Kester. (2025). How to Keep Your Skin Firm as You Age. แหล่งข้อมูล : https://www.healthline.com/health/firmness-skin
สาระน่ารู้เกี่ยวกับศัลยกรรมที่เกี่ยวข้อง